จักรวาลการตลาด ผีไทยเข้าถึงใจ

สัปเหร่อ-ธี่หยด
คอลัมน์ : สามัญสำนึก
ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

วันก่อนตีตั๋วเข้าโรงหนังไปดูหนังผี 2 เรื่อง คือ เรื่อง “สัปเหร่อ” กับ “ธี่หยด” ดูเพื่อจะได้สัมผัสด้วยตัวเองว่า “ผีไทยไปไกลแค่ไหน”

จากที่เคยดู “พี่มาก..พระโขนง” ปี 2556 ยังชอบใจจนถึงทุกวันนี้ ชอบเพราะผีไทยดูสนุกปนน่ากลัว มีมุขหยอดตลอด ทำให้เพลิดเพลิน อมยิ้ม หัวเราะได้เต็มเสียง

มาวันนี้ครบ 10 ปีพอดีที่หนังไทยกลับมาคึกคัก กระตู้วู้บนจออีกครั้ง ทั้งจอในโรง และจอสมาร์ทโฟน

               

ทุกที่นั่งในโรงมีคนดูเกือบเต็ม เห็นแล้วชื่นใจแทนเจ้าของโรงหนัง เจ้าของหนัง และนักแสดงทุกคนที่พวกคุณทำให้คนไทยมีความสุข

แม้จะต้องควักตังค์จ่ายแต่ละครั้ง รวม ๆ เรื่องละ 500 บาทต่อคนต่อที่นั่ง รวมค่าน้ำ ค่าป๊อปคอร์น (เลือกแบบถูกสุดแล้ว) แต่ก็คุ้มค่า ได้บรรยากาศแบบจักรวาลนี้เป็นของข้า

“สัปเหร่อ” คือเรื่องแรกที่เข้าไปดู สนุกดี ชอบ ให้คะแนน 9 เต็ม 10 ครบเครื่องในเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกแบบดัดไม่จริต

ถือว่าไม่เกินเลย ที่นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” และรองนายกฯ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ออกปากชื่นชมว่า เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเชื่อของภาคอีสาน ได้ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง

หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นคุณค่าของการมีชีวิต ทำทุกอย่างให้เต็มที่ และดูแลคนที่เรารักให้ดีที่สุด

เพราะชีวิตมนุษย์ก็แค่นี้ “รู้ เข้าใจ และยอมรับ”

ที่สำคัญ สัปเหร่อเป็นผลงานของคนรุ่นใหม่โนเนม ที่เขียนบท กำกับ และเลือกนักแสดงแบบสมจริง สะท้อนถึงทีมงานที่ภูมิใจในรากเหง้าของตัวเอง เป็นพลังคนอีสานที่สร้างสรรค์

ควรค่าแก่การผลักดันให้ภาพยนตร์ไทยพาวัฒนธรรมไทยออกสู่สายตาชาวโลก สร้างรายได้ และความชื่นชอบให้กับประเทศไทยในทุกรูปแบบ ทั้งเรื่องการกิน และท่องเที่ยว เป็นซอฟต์พาวเวอร์ในอีกมิติหนึ่ง

สัปเหร่อ เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ภาคแยกในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ เป็นหนังสยองขวัญ คอเมดี้ ดราม่า ที่มีคำวิจารณ์ในแง่บวกล้นหลาม เป็นหนังที่มีแก่น นำเสนอวิถีชีวิตของชาวอีสาน เป็นหนังไทบ้านที่มีผีเฉย ๆ แต่ตลก ที่ใส่กลิ่นอายของหนังสยองขวัญไปนิด ๆ หน่อย ๆ ทำให้ถูกจริตคนดูและทำเงินทะลุ 700 ล้านบาท แบบสบาย ๆ

เหมือนเรื่อง “ธี่หยด” ที่ทำรายได้ทะลุ 200 ล้าน ไป 300 ล้านบาทแล้ว แต่จะไม่เทียบเคียงอะไรมาก เพราะธี่หยดเป็นหนังผีคนละสไตล์กับสัปเหร่อ ที่ดูสยองขวัญ ลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่า หลอนได้ใจ แม้ตัวเองจะจิตแข็งแค่ไหนก็ยังต้องเอามือปิดตาดู

ตอนแรกคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียว ที่ไหนได้ เพื่อนร่วมโรงต่างปิดตาแง้มดูเหมือนกันหมด

ธี่หยดจึงเป็นหนังผีที่ดูน่ากลัวกว่าสัปเหร่อ

แก่นของธี่หยดสอนให้คนเราต้องมีสติ อย่าหัวร้อนแบบ “พี่ยักษ์” ที่แสดงโดย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” พระเอกหน้าหล่อ

และสอนให้คนเป็นพ่อเป็นแม่เข้าใจถึงธรรมชาติของวัย นั่นคือ เข้าใจในความเป็นลูก อย่าเอาความคิดหรืออารมณ์ตัวเองมาตัดสินในทุกเรื่องของครอบครัว

เพราะเรื่องเล็กอาจเป็นเรื่องใหญ่ แล้วเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เป็นเรื่องได้

แต่ครอบครัวเล็ก ๆ ของเรื่องธี่หยด ก็มีความน่ารัก ที่ลูกทุกคนต่างเชื่อฟังพ่อแม่ และพี่น้องรักกัน คนเป็นพี่ต้องดูแลน้อง คนเป็นน้องต้องเชื่อฟังพี่ เคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างมีหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง

ถือเป็นหน่วยเล็ก ๆ ในสังคมที่เข้มแข็ง แม้จะสูญเสียลูกสาวคนรองไปเพราะผีตัวเดียว

เมื่อมองถึงจักรวาลการตลาดของ 2 เรื่องที่กล่าวไป ต่างมีคอนเซ็ปต์ชัดเจน และระดมการทำประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่ เป็นการทำการตลาดแบบรอบด้าน จนเกิดบอกปากต่อปาก

และทำให้เกิดการแบ่งปันในโลกโซเชียลอย่างสนุกสนาน ได้ใจถึงใจกันไปเต็ม ๆ