ทียู เดินหน้าแผนพลิกโฉมธุรกิจ เรด ล็อบสเตอร์ คาดฟื้นตัวปีนี้ ยังคงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ เชนร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่บริษัทถือหุ้นอยู่
วันที่ 12 มีนาคม 2566 จากกรณีที่มี TU กำลังพิจารณาที่จะถอนตัวออกจากธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ (Red Lobster) ซึ่งเป็นเชนภัตตาคารอาหารทะเลรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก หลังจากที่เข้าไปซื้อเมื่อปี 2559 แต่หลังจากนั้นเผชิญสถานการณ์โควิด
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนยังเดินหน้าสนับสนุน เรด ล็อบสเตอร์ ซึ่ง ผลประกอบการในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาของเรด ล็อบสเตอร์ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นไปตามความคาดหวังของเรา ทั้งในเรื่องอัตราการเติบโตของยอดขาย และความสามารถในการจัดการต้นทุนการดำเนินงานที่ทำได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจะฟื้นตัวในปีนี้
ล่าสุด เรด ล็อบสเตอร์ ได้มีการเร่งจัดแคมเปญพร้อมโปรโมชั่น พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพและการบริการ พร้อมนำเสนอเมนูใหม่ ๆ เพื่อมุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
“การดำเนินการตามแผน กลยุทธ์ทางการตลาด การพัฒนาบุคลากร คุณภาพสินค้าและบริการต่าง ๆ รวมถึงมีผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่เข้าไปดูแล ทำให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เรด ล็อบสเตอร์ดำเนินธุรกิจตามแผนการพลิกฟื้นธุรกิจด้วยความมุ่งมุ่นและตั้งใจจริง เพื่อร่วมกันสร้าง ให้เป็นธุรกิจร้านอาหารทะเลที่สามารถตอบโจทย์ตรงใจทั้งนักลงทุนและผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม ทั้งในแง่ของความอร่อย สด ใหม่ และคุ้มค่า”
ก่อนหน้านี้ นายธีรพงศ์ ได้เคยให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า Red lobster พ้นจุดต่ำสุดแล้ว สามารถทำรายได้กลับมาให้ทียู 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายทำให้ธุรกิจร้านอาหารกลับมาเป็นปกติ โดยทียูมีแผนขยายสาขา เพิ่มจากเดิม ที่มีสาขาในสหรัฐ ทั้งหมด 650 สาขา ถ้ารวมแคนาดาด้วยก็เป็น 700 สาขา และมีแนวคิดว่าอาจจะพัฒนาไปสู่การทำธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต