ชมภาพชุดชัดๆ! “แจ็ค หม่า”เยือนไทยพบ “สมคิด-บิ๊กตู่” ลงทุนอีอีซี 1.1 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลา 09.55 น. นายแจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทอาลีบาบาและคณะผู้บริหารได้เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การตอนรับในโอกาสเยือนประเทศไทย ณ ห้องนารี 2 ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้นนายแจ็ค หม่า ได้เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ก่อนจะเดินทางไปโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนปาร์ค เพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้าน Smart Digital Hub and Digital Transformation Strategic Partnership ซึ่งประกอบไปด้วย MOU 4 ฉบับ

ทั้งนี้อาลีบาบาได้เตรียมแผนการก่อสร้างโครงการ Smart Digital Hub ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าลงทุน 11,000 ล้านบาท ที่จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2561-2562 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในโครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ศูนย์กระจายสินค้า การขนส่งที่จับมือกับทางไปรษณีย์ไทย รวมถึงการลงทุนด้านระบบไอที ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่เปิดให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่สามารถวางระบบได้เข้าไปร่วม ซึ่ง Smart Digital Hub เป็นโครงการที่จะอาศัยเทคโนโลยีด้านการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก

และส่วนที่เป็นโครงการความร่วมมือ คือ 1. การพัฒนาบุคลากรในด้านดิจิทัลและการส่งเสริมธุรกิจผ่าน E-Commerce เพื่อพัฒนากลุ่มคนเก่งหรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาได้เสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา หรือ Alibaba Business School (ABS) มาร่วมสนับสนุนการใช้ Platform E-Commerce โดยจะเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนสร้างเครือข่าย (Networking) กับดาวเด่นหรือ Talents ทั่วโลกที่ประเทศจีน

2. โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ สำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startup ของไทย โดยอาลีบาบาจะจัดทีมงานร่วมลงพื้นที่กับทีมงานของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยใช้เครือข่าย ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 สู่อนาคต (Industry Transformation Center: ITC) ในระดับภาคและจังหวัดของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถพัฒนาและเข้าถึงผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการ Startup ระดับชุมชนทั่วประเทศ

3.อาลีบาบา จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดทำ Thailand Tourism Platform สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ เพื่อจัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลทฟอร์มที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่างๆ ของ ททท. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวในระดับชุมชน เช่น การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมืองรองและสินค้าชุมชน

4.กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับอาลีบาบาในการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เพื่อเป็นตัวกลางที่จะนำสินค้าเกษตรอย่าง ข้าว และทุเรียน ขายทางออนไลน์ในตลาดจีนเป็นหลัก โดยเตรียมเข้าหารือเพื่อลงรายละเอียดกับทางกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงปริมาณข้าวและทุเรียนว่าต้องการจำนวนเท่าไร

 

ภาพทั้งหมดจาก สำนักโฆษกทำเนียบรัฐบาล