โค้งสุดท้ายปี 2566 ไทยใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐ 2,865.27 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่งออก

กรมการค้าต่างประเทศ เผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ระบบ GSP ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) 11 เดือน ปี 2566 มีมูลค่ารวม 3,143.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สหรัฐ ครองอันดับหนึ่งสำหรับการใช้สิทธิ GSP มีมูลค่าการใช้สิทธิ สูงถึง 2,865.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ว่า  ปัจจุบันไทยได้รับสิทธิ GSP จาก 4 ประเทศ/กลุ่มประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) ซึ่งประกอบด้วย ยูเครน อาเซอร์ไบจาน ทาจิกิสถาน มอลโดวา อุซเบกิสถาน จอร์เจีย และเติร์กเมนิสถาน

ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน ปี 2566 มีมูลค่าการใช้สิทธิ รวม 3,143.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 54.16 % ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของสินค้าที่ได้รับสิทธิ และตลาดสหรัฐ เป็นตลาดอันดับ 1 ที่ไทยมีการสิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุด โดยมีมูลค่าการใช้สิทธิ อยู่ที่ 2,865.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 91.16 % ของมูลค่าการส่งออกที่ใช้สิทธิ GSP ทั้งหมด

รณรงค์ พูลพิพัฒน์
รณรงค์ พูลพิพัฒน์

จากการติดตามสถิติการใช้สิทธิ GSP พบว่าไทยมีการใช้สิทธิ ผ่านโครงการ GSP ของสหรัฐ สูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 มีสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกภายใต้สิทธิ 5 อันดับแรกคือ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ กรดมะนาวหรือกรดซิทริก หีบเดินทางขนาดใหญ่หรือกระเป๋าใส่เสื้อผ้า อาหารปรุงแต่ง และถุงมือยาง

สำหรับโครงการ GSP ของสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการใช้สิทธิ เป็นอันดับ 2 มูลค่า 261.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 โครงการ GSP ของนอร์เวย์ มูลค่า 12.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโครงการ GSP ของกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) มูลค่า 4.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ โดยมีสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ สูง อาทิ เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่า (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) และสับปะรดกระป๋อง (CIS) เป็นต้น

กรมการค้าต่างประเทศขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยได้ใช้สิทธิพิเศษ GSP เหล่านี้ เพราะจะทำให้ได้แต้มต่อทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ GSP ของสหรัฐ ที่หากใช้สิทธิ GSP สินค้าจะได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าตลาดสหรัฐ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคากับสินค้านำเข้าจากประเทศอื่น ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น

“ที่ผ่านมากรมได้ทำการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการอบรมสัมมนาในเรื่องเกี่ยวกับการส่งออกโดยใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิ FTA หรือ GSP มาโดยตลอด ซึ่งในปี 2567 กรมจะมีแผนการจัดงานสัมมนาตลอดทั้งปีอีกเช่นกัน

โดยเบื้องต้นมีแผนจะจัดงานสัมมนาเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกันยายน 2567 ในจังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และนครพนม จึงอยากขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมงานสัมมนาเพื่อรับความรู้ดี ๆ จากทางกรมการค้าต่างประเทศ โดยติดตามความคืบหน้ากำหนดการจัดงานได้ทางเว็บไซต์กรม และ Facebook กรมการค้าต่างประเทศ”

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศพร้อมให้ข้อมูลและคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า ผู้ประกอบการสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือโทร.สายด่วน 1385 รวมถึงไลน์แอปพลิเคชั่น ชื่อบัญชี