เศรษฐกิจในประเทศ

ทุเรียนโอโซนชัยภูมิ ปังไม่แพ้ทุเรียนตะวันออก รสชาติกรอบ กลิ่นเบา เปิดจอง พ.ค.

ทุเรียน

กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน จ.ชัยภูมิ ปังไม่แพ้ทุเรียนตะวันออก สร้างกำไรให้กลุ่มปีละ 223 ล้านบาท เตรียมเปิดจอง พ.ค.นี้ เผยเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีรสชาติเฉพาะตัว หวานละมุน กรอบอร่อย กลิ่นเบากว่าทุเรียนพันธุ์อื่น เนื้อละเอียดไม่มีเส้นใย

วันที่ 26 เมษายน 2565 นางสุจารีย์ พิชา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ในปี 2565 กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน อยู่ระหว่างการดำเนินการขอรับรองมาตรฐาน GAP ในนามเกษตรแปลงใหญ่ โดย สศท.5 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตของกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน พบว่าปี 2564/65 มีเนื้อที่ปลูกทั้งหมด 1,063 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 655 ไร่ ปัจจุบันมีสมาชิก 51 ราย

โดยมีนายสมพงษ์ ดีเดิม เป็นประธานแปลงใหญ่สำหรับพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนโอโซนของกลุ่มแปลงใหญ่มีความเหมาะสม เนื่องจากปลูกบนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 800 กว่าเมตร ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดทั้งปี ลักษณะพื้นดินภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีรสชาติเฉพาะตัว หวานละมุน กรอบอร่อย กลิ่นเบากว่าทุเรียนพันธุ์อื่น เนื้อละเอียดไม่มีเส้นใย จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งพันธุ์ที่นิยมปลูกส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ทุเรียนหมอนทอง เนื่องจากเป็นพันธุ์ยอดนิยมที่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศชื่นชอบ

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานเกษตรอำเภอเทพสถิตได้ส่งเสริมให้กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสาน (ซูเปอร์ฟาร์ม) โดยจัดให้มีการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ยั่งยืน มีกิจกรรมเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมสวนทุเรียน สินค้าของแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเครือข่าย ซึ่งในส่วนของการบริหารจัดการทุเรียนของกลุ่มแปลงใหญ่ ทางกลุ่มมีแนวโน้มขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดทุเรียนยังเปิดกว้าง และผลผลิตยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค

“ปีนี้ลูกค้าสามารถสั่งจองผลผลิตได้แต่ตั้งเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ผลผลิตเริ่มติดผล หรือลูกค้าท่านใดอยากมาเลือกซื้อผลผลิตด้วยตนเองในช่วงที่ผลผลิตออกเต็มที่แล้ว สามารถซื้อได้ที่หน้าสวนของเกษตรกรได้ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมนอกจากนี้ ยังมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย เช่น โทรสั่งซื้อหรือสั่งออนไลน์ซึ่งมีบริการจัดส่งจากสวนส่งตรงถึงหน้าบ้าน”

ขณะที่ต้นทุนการผลิตทุเรียนโอโซนของกลุ่มแปลงใหญ่เฉลี่ย 27,196 บาท/ไร่/ปี (เริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 6 และเก็บเกี่ยวได้ระยะยาว) เกษตรกรนิยมปลูกในช่วงต้นฤดูฝน (เดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปี) เริ่มติดดอกช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ผลผลิตเฉลี่ย 2,460 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือคิดเป็นผลผลิตรวมของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 1,611 ตัน/ปี ราคาที่เกษตรขายทุเรียนโอโซนได้ในรอบปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 150 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนเฉลี่ย 369,000 บาท/ไร่/ปี คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 341,804 บาท/ไร่

หากคิดเป็นผลตอบแทนทั้งหมดของกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซนจะได้กำไรปีละ 223 ล้านบาท โดยการจำหน่ายผลผลิตจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ร้อยละ 70 ขายที่หน้าสวนโดยตรง และร้อยละ 30 จำหน่ายผ่านทางออนไลน์ อาทิ Facebook และ Line ของเกษตรกรเอง

ทั้งนี้ จังหวัดชัยภูมิมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรที่ให้ผลตอบแทนสูงและคุ้มค่า สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มการผลิต และให้เกษตรกรเป็นผู้บริหารจัดการแบบครบวงจรทั้งด้านการผลิต แปรรูปและการตลาด รวมถึงสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง

โดยในปี 2562 จังหวัดชัยภูมิร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอเทพสถิต ดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซนตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ เน้นการรวมกลุ่มเกษตรกร ถ่ายทอดความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตเกษตรกรส่วนใหญ่ได้มาตรฐาน GAP แล้ว