
เปิดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชีย โดย QS จีนผงาดที่ 1 ครั้งแรก โค่นแชมป์เก่าตลอด 4 ปี อย่างสิงคโปร์ ส่วนไทยมี 26 แห่งอยู่บน Ranking มีเพียง 3 แห่ง ติดท็อป 100 ประสบความสำเร็จด้านชื่อเสียงทางวิชาการด้วยอันดับดีที่สุดเป็นประวัติการณ์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าควัคควาเรลลี ซีมอนด์ส หรือคิวเอส (Quacquarelli Symonds หรือ QS) ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการอุดมศึกษา ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก : ภูมิภาคเอเชีย QS Asia University Rankings 2023 ครั้งที่ 15 ซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยจำนวนมหาวิทยาลัย 760 แห่ง
- ทำความรู้จักบัตรวิสดอมกสิกรไทย ต้องรวยแค่ไหนถึงถือบัตรได้
- สนามบินเยอรมนีป่วน ! การบินไทยยกเลิกเที่ยวบินแฟรงก์เฟิร์ต-มิวนิก 26-27 มี.ค.
- ประกันสังคม ม.33-39-40 ผู้ประกันตนแต่ละประเภท มีสิทธิต่างกันอย่างไร?
โดยตัวชี้วัดในการจัดอันดับของ QS ในระดับเอเชียนั้น ได้มีการพิจารณาอย่างครอบคลุมมากกว่าสิบด้านรวมทั้งด้านวิชาการและการสอน ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมที่แสดงถึงความแข็งแกร่งที่ครอบคลุมทั้งการสอนและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
จีนครองอันดับ 1 โค่นแชมป์เก่าสิงคโปร์
โดยผลการจัดอันดับนั้น มหาวิทยาลัยปักกิ่งครองอันดับ 1 ในเอเชีย โค่นแชมป์เก่าอย่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ที่รั้งอันดับ 1 มานานถึง 4 ปี ก่อนที่จะหล่นมาอยู่ในอันดับ 2 ในปีนี้ ขณะที่มหาวิทยาลัยชิงหัวครองอันดับ 3 ส่วนในภาพรวมนั้นมหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาติดอันดับมากที่สุด ถึง 128 แห่ง รองลงมาคืออินเดียมี 118 แห่ง และญี่ปุ่น 106 แห่ง
Top 20 เอเชีย
1.มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) จีนแผ่นดินใหญ่
2.มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) สิงคโปร์
3.มหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua University) จีนแผ่นดินใหญ่
4.มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong) เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
5.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (Nanyang Technological University) สิงคโปร์
6.มหาวิทยาลัยฟูตัน (Fudan University) จีนแผ่นดินใหญ่
7.มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) จีนแผ่นดินใหญ่
8.สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (KAIST) เกาหลีใต้
9.มหาวิทยาลัยมาลายา (Universiti Malaya) มาเลเซีย
10มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (Shanghai Jiao Tong University) จีนแผ่นดินใหญ่
11.มหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo) ญี่ปุ่น
12.มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK) เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
13.มหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University) เกาหลีใต้
14.มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง (HKUST) เขตบริหารพิเศษฮ่องกง
15.มหาวิทยาลัยเกาหลี (Korea University) เกาหลีใต้
16.มหาวิทยาลัยเกียวโต (Kyoto University) ญี่ปุ่น
17.มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University) เกาหลีใต้
18.มหาวิทยาลัยซองคยุนกวาน (Sungkyunkwan University) เกาหลีใต้
19.มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University) ไต้หวัน
20.สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (Tokyo Institute of Technology) ญี่ปุ่น
เบน โซวเทอร์ (Ben Sowter) รองประธานอาวุโสของคิวเอส กล่าวว่าการลงทุนด้านการอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่องและมหาศาลของจีนเป็นรากฐานของความสำเร็จในปัจจุบัน โดยมหาวิทยาลัยปักกิ่งคว้าตำแหน่งมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย ขณะที่มหาวิทยาลัยชิงหัวก็สามารถคว้าอันดับ 3 ไปครอง ส่วนสิงคโปร์ยังคงทำผลงานได้ดี โดยมีมหาวิทยาลัยติด 5 อันดับแรกถึง 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม ระบบการอุดมศึกษาของบางประเทศในเอเชียกำลังเผชิญกับความท้าทายเนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลง
จากผลการจัดอันดับชี้ให้เห็นว่า ญี่ปุ่นและจีน แต่ละประเทศมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งที่ติด 5 อันดับแรกในด้านชื่อเสียงทางวิชาการและทัศนคติของผู้จ้างงานต่อมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยโตเกียวครองอันดับหนึ่งของตัวชี้วัดทั้งสอง ส่วนอินเดียมีความเป็นเลิศด้านการผลิตงานวิจัย โดยมีมหาวิทยาลัย 3 แห่งติด 5 อันดับแรกในด้านเอกสารการวิจัย/คณาจารย์
หากพิจารณาจากการกระจุกตัวของมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ พบว่าเกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัยที่รั้ง 20 อันดับแรกมากที่สุด ขณะที่มาเลเซียมีมหาวิทยาลัยที่รั้ง 50 อันดับแรกมากที่สุด 17% รวมถึงรั้ง 100 อันดับแรกมากที่สุด 22%
สิงคโปร์และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงผลิตงานวิจัยที่มีอิทธิพลสูง โดยมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งที่ติด 5 อันดับแรกในด้านการอ้างอิง/เอกสารการวิจัย นอกจากนี้มหาวิทยาลัยอากาข่าน (Aga Khan University) ของปากีสถานมีความสามารถด้านการสอนสูงสุดในเอเชีย ตามดัชนีชี้วัดด้านคณาจารย์/อัตราส่วนนักศึกษา
ที่สำคัญในปีนี้ มีมหาวิทยาลัยหน้าใหม่ 5 แห่งที่เข้ามาติด 100 อันดับแรก โดยมหาวิทยาลัยแห่งชาติอัล-ฟาราบี คาซัค (Al-Farabi Kazakh National University) ของคาซัคสถาน เข้ามาในอันดับสูงสุด อันดับ 44 ส่วนอิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคณาจารย์ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างดีที่สุดของเอเชีย จากดัชนีชี้วัดด้านบุคลากรที่มีวุฒิปริญญาเอก
ขณะที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในด้านชื่อเสียงทางวิชาการด้วยอันดับดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีมหาวิทยาลัย 3 แห่งติด 100 อันดับแรก ในขณะที่ฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จในด้านทัศนคติของผู้จ้างงานต่อมหาวิทยาลัย โดยมีมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ 4 แห่งติด 100 อันดับแรก เวียดนามมีการพัฒนามากที่สุด โดยมหาวิทยาลัย 55% มีอันดับดีขึ้น
26 อันดับมหาวิทยาลัยไทยใน Ranking เอเชีย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจการจัดอันดับ QS Asia University Rankings 2023 นั้น มีเพียงมหาวิทยาลัย 3 แห่งที่ติดอันดับ Top 100 โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังคงรั้งอันดับ 1 ในไทย อยู่อันดับที่ 37 ของเอเชีย ตามด้วยมหาวิทยาลัยมหิดล อันดับที่ 47 และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันดับที่ 99 ส่วนอันดับอื่น ๆ มีดังต่อไปนี้
1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับที่ 37
2.มหาวิทยาลัยมหิดล อันดับที่ 47
3.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันดับที่ 99
4.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันดับที่ 140
5.มหาวิทยาลัยเกริก อันดับที่ 149
6.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อันดับที่ 150
7.มหาวิทยาลัยขอนแก่น อันดับที่ 171
8.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อันดับที่ 195
9.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อันดับที่ 246
10.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อันดับระหว่าง 351-400
11.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อันดับระหว่าง 351-400
12.มหาวิทยาลัยสยาม อันดับระหว่าง 401-450
13.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ อันดับระหว่าง 451-500
14.มหาวิทยาลัยนเรศวร อันดับระหว่าง 451-500
15.มหาวิทยาลัยศิลปากร อันดับระหว่าง 451-500
16.มหาวิทยาลัยศิลปากร อันดับระหว่าง 451-500
17.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อันดับระหว่าง 451-500
18.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อันดับระหว่าง 501-550
19.มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย อันดับระหว่าง 501-550
20.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อันดับระหว่าง 551-600
21.มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อันดับระหว่าง 601-650
22.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อันดับระหว่าง 601-650
23.มหาวิทยาลัยบูรพา อันดับระหว่าง 651-700
24.มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อันดับระหว่าง 651-700
25.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อันดับระหว่าง 651-700
26.มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อันดับระหว่าง 701-750
- เปิดผลจัดอันดับมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน ปี 2566 ไทยติด 7 แห่ง
- จีน ติดโผอันดับมหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลกถึง 338 แห่งแซงหน้าสหรัฐ