บาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังธุรกรรมในตลาดบางเบา

เงินบาท

เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังธุรกรรมในตลาดบางเบา ตลาดจับตาจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค.2566 ขณะที่ปัจจัยในประเทศตัวเลขส่งออกของไทยลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ผลจากเศรษฐกิจโลกที่หดตัวต่อเนื่อง

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/12) ที่ระดับ 34.59/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (26/12) ที่ระดับ 34.76/78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ออกแถลงการณ์ว่า จะมีการยกเลิกมาตรการการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป หลังจากมีการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวมา 3 ปี

ทั้งนี้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศจีนยังคงต้องได้รับการตรวจแบบ PCR ก่อนออกจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 จาก Category A ซึ่งเป็นระดับสูงสุดสู่ระดับ Category B

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขส่งออกของไทยประจำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ -6.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง สถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกที่อยู่ในระดับสูงและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งปัญหาทางภูมิศาสตร์ซึ่งยังคงมีอยู่ เช่น สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะการนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.6%

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 11 เดือน (มกราคม-พฤศจิกายน 2565) อยู่ที่ 9.17 ล้านล้านบาท ถือว่ายังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 9 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 34.68-34.69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.63/65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้านี้ (26/12) ที่ระดับ 1.0647/51 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดเนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0632-1.0667 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0653/55 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (27/12) ที่ระดับ 133.03/05 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (26/12) ที่ระดับ 132.97/132.98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามภาพยังคงถือว่าปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขยายกอลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นจากเดิมกรอบ -0.25% ถึง +0.25% เป็นกรอบ-0.5% ถึง +0.5% และประกาศจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสู่ 9 ล้านล้านเยน (6.75 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่ 7.3 ล้านล้านเยนต่อเดือน

นอกจากนี้ กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า อัตราการว่างงานประจำเดือนพฤศจิกายนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.5% จาก 2.6% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่ตลาดแรงงานของญี่ปุ่นส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการอุดหนุนอุตสาหกรรมการเดินทางภายในประเทศของรัฐบางญี่ปุ่น ประกอบกับการยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรค Covid-19 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 132.64-133.20 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 133.16/17 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพฤศจิกายน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคมจาก Conference Board, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤศจิกายน และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -10.5/-9.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -21.0/-15.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ