เศรษฐา แก้หนี้รหัส 21 ออมสิน-ธ.ก.ส. ปิดบัญชีหนี้เสีย 9 แสนราย กลับสู่หนี้ปกติ

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

รัฐบาลเศรษฐาลุยจัดการหนี้ในระบบ แบ่งลูกหนี้ 4 กลุ่ม เผยกลุ่มหนี้รหัส 21 แบงก์ออมสินปิดบัญชีหนี้เสีย กว่า 6.3 แสนบัญชี มูลหนี้กว่า 4 พันล้าน ช่วยลูกหนี้กลับมามีสถานะปกติในระบบเครดิตบูโร ขณะที่ ธ.ก.ส. อยู่ระหว่างดำเนินการปิดบัญชีหนี้เสียอีก 3 แสนราย พร้อมเร่งเครื่องปรับโครงสร้างกลุ่มเอสเอ็มอี

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการแถลงข่าวความคืบหน้าผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ที่กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน ทั้งหนี้นอกระบบและหนี้ในระบบเป็นวาระแห่งชาติ โดยนอกจากในส่วนของบันได 4 ขั้นในการแก้หนี้นอกระบบแล้ว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงในส่วนการแก้หนี้ในระบบ ว่าได้แบ่งกลุ่มลูกหนี้ออกเป็น 4 กลุ่ม บางกลุ่มได้รับความช่วยเหลือไปแล้ว แต่บางกลุ่มยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งผมขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

โดยกลุ่มที่ 1 คือ ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 หรือเรียกว่า ลูกหนี้รหัส 21 ลูกหนี้ถ้าเป็นลูกหนี้รายย่อย ธนาคารออมสินได้ช่วยเหลือโดยปิดบัญชีหนี้เสียแล้วมากกว่า 6.3 แสนบัญชี มูลหนี้กว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้กลับมามีสถานะปกติในระบบเครดิตบูโร และสามารถกลับเข้าสู่ระบบการเงินได้ อีกทั้งยังมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ SMEs แล้วมากกว่า 1 หมื่น ราย มูลหนี้กว่า 5 พัน ล้านบาท

กลุ่มที่ 2 คือ ลูกหนี้ที่มีรายได้ประจำ แต่มีภาระหนี้จำนวนมากจนเกินศักยภาพในการชำระคืนหนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีหนังสือขอความร่วมมือให้สหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่ง คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่สูงจนเกินไป ไม่ควรเกินร้อยละ 4.75 ซึ่งมีสหกรณ์ออมทรัพย์กว่า 80 แห่ง ทยอยลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงมาแล้ว ซึ่งคาดว่าการลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ได้กว่า 3 ล้านราย นอกจากนี้ ลูกหนี้บัตรเครดิตได้เข้าร่วมปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ในโครงการคลินิกแก้หนี้แล้วมากกว่า 1.5 แสนบัญชี

กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง โดยเกษตรกรได้รับการพักชำระหนี้แล้วมากกว่า 1 .8 ล้านราย มูลหนี้รวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท รวมถึงลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เข้ามาติดต่อขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วมากกว่า 6 แสนราย ซึ่ง กยศ. สามารถลดหรือปลดหนี้ให้กับลูกหนี้กลุ่มนี้ได้

Advertisment

กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่มีหนี้เสียคงค้างกับสถาบันการเงินมาเป็นระยะเวลานาน โดยปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีหลักเกณฑ์การร่วมทุน ระหว่างสถาบันการเงินกับบริษัทบริหารสินทรัพย์แล้ว และจะขยายหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งธนาคารออมสินอยู่ระหว่างเจรจาผู้ร่วมทุน เพื่อเตรียมจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2567 เมื่อการจัดตั้งแล้วเสร็จ ลูกหนี้กลุ่มนี้จะสามารถโอนขายไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ตั้งขึ้นใหม่เพื่อให้การช่วยเหลือแบบผ่อนปรนต่อไป

ขณะนี้นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าในส่วนของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 หรือลูกหนี้รหัส 21 ธนาคารออมสินได้ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้โดยปิดบัญชีหนี้เสียแล้ว มากกว่า 6.3 แสนบัญชี และยังมีลูกหนี้ของ ธ.ก.ส. อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะปิดบัญชีลูกหนี้ ได้ประมาณ 300,000 ราย ซึ่งการปิดบัญชีทำให้ลูกหนี้รหัส 21 รวมกว่า 9 แสนราย กลับมามีสถานะเป็นลูกหนี้ปกติ ที่สามารถเข้าสู่ระบบการเงินได้ ไม่ได้มีสถานะเป็นหนี้เสียอีกต่อไป