กสิกรไทย คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ชี้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยต้นปี’66

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
FILE PHOTO: REUTERS/File Photo นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินการประชุม FOMC วันที่ 26-27 ก.ค. คาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแค่ 0.75% ด้านเงินเฟ้อยังคงเร่งสูงขึ้นต่อเนื่อง เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณลดความร้อนแรงลง คาดเข้าสู่ภาวะถดถอยเชิงเทคนิคต้นปี 2566

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ในการประชุม FOMC วันที่ 26-27 ก.ค.นี้ คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังอยู่ระดับสูง โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ที่ออกมาล่าสุดยังคงเร่งตัวสูงขึ้นและแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ที่ 9.1% YOY ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มที่จะยังคงให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นหลัก

โดยเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาเร่งตัวสูงขึ้นจะยังคงเป็นแรงกดดันให้เฟดต้องให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นหลัก และคงพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% ในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐ วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน มิ.ย. 2565 ยังคงเร่งสูงขึ้นและแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปีที่ระดับ 9.1% YOY ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.8% YOY ขณะที่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นที่ 1.3% MOM ส่งผลให้เฟดเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เฟดคงพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% เช่นเดียวกับในการประชุมในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่มองความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึง 1.00% นั้นยังคงมีน้อยกว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.75% ในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึง 1.00% จะถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อครั้งที่มากสุดในรอบ 40 กว่าปี ซึ่งอาจสร้างความวิตกกังวลต่อตลาดได้

โดยตลาดมุมมองว่าจะมีเฟดมีความวิตกกังวลอย่างมากต่อตัวเลขเงินเฟ้อ และมองว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถควบคุมได้จึงจำเป็นต้องให้ยาแรงกว่าที่เคยส่งสัญญาณไว้ ดังนั้น เฟดคงต้องชั่งน้ำหนักผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากจะดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าวมากขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าเฟดจะพยายามประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐให้ไปสู่ soft landing แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมายังอยู่ในภาวะเร่งตัว ทำให้เฟดไม่มีทางเลือกมากนักที่จะต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าวขึ้น ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค หรือหดตัว 2 ไตรมาส ติดต่อกันในช่วงปี 2566 ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณลดความร้อนแรงลง โดยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่ผ่านมา (10-16 ก.ค. 2565) เพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ 251,000 ราย

โดยหลายบริษัทเริ่มมีการปรับลดการจ้างงานท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐขณะที่ในด้านการบริโภคที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย.ยังขยายตัวได้ที่ 1.0% MOM แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นมูลค่าตามราคาปัจจุบัน ซึ่งหากหักปัจจัยด้านราคาด้วยเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ที่อยู่ที่ 1.3% MOM ยอดค้าปลีกแท้จริงจะติดลบจากเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือน มิ.ย. ยังลดลงมาแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ สะท้อนให้เห็นว่าการบริโภคของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะชะลอลง ซึ่งหากเงินเฟ้อยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง และส่งผลให้เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบแข็งกร้าวก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในประเทศให้ชะลอลงไปกว่าเดิม

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค กล่าวคือเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 2 ไตรมาสติดต่อกัน ในช่วงต้นปี 2566 หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวไปแล้วในไตรมาส 1/2565 ที่ -1.5% YOY

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังมองว่าภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐมาจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว จึงไม่มองว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจสหรัฐจะรุนแรงอย่างที่เกิดขึ้นในปี 2552 ขณะที่ในด้านของเงินเฟ้อคาดว่าจะอ่อนแรงลงได้บ้างตามอุปสงค์ที่ชะลอลง และอาจส่งผลให้เฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยลงได้ในระยะข้างหน้า

สำหรับผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างแข็งกร้าวของเฟดจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ยังมีทิศทางแข็งค่า ในขณะที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ที่มีการดำเนินนโยบายการเงินสวนทางกับเฟดเผชิญทิศทางค่าเงินที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง