ส่องรายได้คนขับรถโดยสารส่วนบุคคล ผ่าน “แอป” 4 แพลตฟอร์มเรียกรถส่วนบุคคล ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก คนขับแกร็บ รายได้เต็มวันสูงถึง 3,000 บาทต่อวัน แอร์เอเชียไรด์ 40,000-64,000+ บาทต่อเดือน
ธุรกิจ Ride Hailing หรือการขนส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ กลับมาบูมอีกครั้งเมื่อการท่องเที่ยวและเดินทางในประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติ โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา มีแพลตฟอร์มหรือผู้ได้รับใบอนุญาติอย่างถูกกฎหมายจากกรมการขนส่งทางบกหน้าใหม่รวมทั้งสิ้น 6 แอป แบ่งเป็น แอปพลิเคชั่นที่เรียกแท็กซี่และรถส่วนบุคคล ได้แก่ Grab, Air Asia Ride Robinhood Ride และล่าสุด คือ Bolt ซึ่งได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นอกจากนี้ ยังมีแอปสำหรับให้บริการแท็กซี่โดยเฉพาะ คือ Cabb Driver ที่ให้ผู้ขับเช่ารถแท็กซี่ทรงคลาสสิก ให้บริการในกรุงเทพฯและปริมณฑล อีกแอป คือ Hello Phuket ให้บริการเรียกแท็กซี่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ Robinhood Ride ที่มีการผนึกเครือข่ายแท็กซี่ในกรุงเทพฯกว่า 10,000 คัน เพื่อให้บริการ
โดยพื้นฐานของแนวคิด Ride Hailing แล้วจัดเป็น Sharing Economy คือเป็นโมเดลธุรกิจที่แบ่งปันทรัพยากรเพื่อสร้างรายได้จากทรัพยากรที่มีอยู่ ในที่นี้คือรถยนต์ ดังนั้นหากมีรถยนต์ที่จอดอยู่เฉย ๆ ที่บ้าน หากนำมารับส่งผู้ที่มีความต้องการเดินทาง แต่ไม่มีรถสาธารณะรองรับในช่วงเวลาเร่งด่วน ก็สามารถสร้างรายได้อีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนสนใจ
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมในการเป็น “พาร์ตเนอร์” ผู้ขับของแอปพลิเคชั่นเรียกรถส่วนบุคคล ซึ่งมีอยู่ 4 แอป ที่ได้กล่าวไป นอกจากนี้จะชวนส่องรายได้ จากผู้ขับขี่ทั้งที่แชร์จากประสบการณ์ภายในชุมชนผู้ขับ และที่ทางเจ้าของแอปการันตี
ข้อควรรู้
- ผู้ที่จะเป็นพาร์ตเนอร์คนขับของแพลตฟอร์มเรียกรถเหล่านี้ต้องมีใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะ
- รถยนต์ส่วนบุคคลที่จะนำมาใช้ขับ จะต้องจดทะเบียนรถรับจ้างขนส่งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จากกรมขนส่งทางบกและจะได้รับสติ๊กเกอร์สองแผ่น ติดแสดงด้านหน้าและหลังรถให้ชัดเจน
- รถยนต์ส่วนบุคคลที่จะนำมาใช้ขับ จะต้องมีการทำประกันภัยสำหรับรถโดยสารสาธารณะ
- ตรวจสอบประเภท และอายุของรถยนต์ ให้ตรงตามเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์ม
แกร็บ Grab
แกร็บ มีรูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนให้คนขับหลากหลาย โดยมีการนำประสบการณ์จากผู้ขับจริงมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ทางการบ่อยครั้ง ข้อมูลในเว็บไซต์ของแกร็บ ระบุว่า ผู้ที่ขับ GrabCar (รถยนต์ที่มี4 ประตูขึ้นไป) แบบเต็มเวลา การขับแกร็บคาร์รายได้โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 180 บาทต่อรอบ แต่ถ้าในหนึ่งวันสามารถรับงานได้ 10 งาน จะสามารถหารายได้จากการรับผู้โดยสารราว 1,800 บาท (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย)
ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว ผู้ขับที่ค่อนข้างชำนาญจะรับงานได้ไม่ต่ำว่า 12 งานต่อวัน ทำให้พาร์ตเนอร์ส่วนใหญ่สามารถหารายได้ได้อย่างต่ำวันละ 2,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากการรับผู้โดยสารแล้ว ทางแกร็บจะมี อินเซนทีฟ และโบนัสต่าง ๆ เพิ่มให้ เช่น โบนัสรับงานไกล และโบนัส 5บาท/รอบ ในกรณีที่ลูกค้าซื้อประกันเดินทางเพิ่ม
ในส่วนของผู้ขับ Grab Premium ที่ใช้รถหรูแบรนด์ต่าง ๆ แบบเต็มเวลา สามารถสร้างรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 2,000-3,000 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ตาม แกร็บ เก็บค่าคอมมิชชั่น 25% จากค่าโดยสารจริง
โบลต์ (Bolt)
แพลตฟอร์ม ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก มีการวางอัตราค่าโดยสาร แล้วแต่ประเภทการเรียกรถ มีตั้งแต่
- รถอีโคคาร์ กม.แรก 40 บาท 6บ./กม.
- รถ4ประตูธรรมดา กม. แรก 45 บาท จากนั้น 7 บ./กม.
- รถขนาด 7 ที่นั่ง จนถึงรถตู้รถแวน กิโลเมตรแรก 100 บาท 12 บ./กม.
- รถทุกประเภทคิดค่ารถติด 2 บ./นาที
โบลต์ ระบุในเว็บไซต์ว่า สามารถสร้างรายได้ราว 3,400 บาทต่อสัปดาห์ (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย) อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มผู้ขับจำนวนมาก ได้แบ่งปันผลการขับขี่ตลอดทั้งวันแบบ Fill Time ตามคอมมิวนิตี้ในเฟซบุ๊ก โดยมีรายรับตั้งแต่ 20,000-60,000 บาทเลยทีเดียว
Bolt มีการเก็บค่าคอมมิชชั่น 15%
แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอป หรือ Air Asia Ride
จากข้อมูลในเว็บไซต์ ของ Air Asia ระบุว่า ปัจจุบันพาร์ตเนอร์คนขับ ไรเดอร์ และเมสเซนเจอร์ของแอร์เอเชียมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งยังไม่รวมค่าโดยสาร ค่าคอมมิชชั่น และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นั่นหมายความว่าหากต้องการทำรายได้ 1,000 บาท คุณจำเป็นต้องรับงานเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
หากรับงานวันละ 8 ชั่วโมงเป็นเวลาติดต่อกัน 30 วัน คุณจะมีรายได้สูงถึง 40,000-64,000+ บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับการรับงานและปัจจัยอื่น ๆ และแอร์เอเชียมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 15% จากส่วนแบ่งของรายได้ดังกล่าว
แอร์เอเชียมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 15% จากส่วนแบ่งของรายได้
โรบินฮู้ด ไรด์ Robinhood Ride
โรบินฮู้ด ขยายบริการแอปดีลิเวอรี่ ไปสู่บริการเรียกรถ Robinhood Ride เป็นอีกหนึ่งบริการที่จะสร้างรายได้ให้บริษัท แม้ช่วงแรกจะจำเป็นต้องมีโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานกับเป้าหมายที่ต้องการเป็น top 3 ในธุรกิจเรียกรถภายใน 3 ปี มีส่วนแบ่งตลาด 20%
ปัจจุบันมี คนขับอยู่ในระบบแล้ว 4,500 คน ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมียอดธุรกรรมเฉลี่ยต่อวันที่ 12,000 ครั้ง และมีรถยนต์พร้อมให้บริการกว่าหมื่นคัน
Robinhood Ride มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากคนขับ 20% คนขับเริ่มรับงานได้เลยโดยไม่ต้องเติมเครดิตก่อน ไม่รับชำระค่าบริการเป็นเงินสด มีประกันเหตุร้ายในช่วงสี่ทุ่มถึงตีสี่ และมี call center 24 ชั่วโมง
ค่าบริการ คนขับรถแต่ละประเภท มีดังนี้
-
- Robinhood Taxi แท็กซี่
ราคาเริ่มต้น 35.00 บาท
ระยะทาง 1.01-10 กิโลเมตร 6.50 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 10.01-20 กิโลเมตร 7.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 20.01-40 กิโลเมตร 8.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 40.01-60 กิโลเมตร 8.50 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 60.01-80 กิโลเมตร 9.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่าหรือเท่ากับ 80.01 กิโลเมตร 10.50 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 3.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood EV Car รถยนต์ไฟฟ้า
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 45.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 8.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 7.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 10.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood EV Premium Car รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยม
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 110.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood Car รถยนต์ทั่วไป
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 45.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 8.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 7.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 10.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood Premium Car รถยนต์พรีเมี่ยม
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 110.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood Lady รถยนต์ทั่วไปคนขับผู้หญิง
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 45.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 8.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 7.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 10.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood Premium Lady รถยนต์พรีเมียมคนขับผู้หญิง
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 110.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท
-
- Robinhood SUV รถยนต์ขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่มีสัมภาระ
ราคาขั้นต่ำ (ระยะทางน้อยกว่า 2.00 กิโลเมตร) 110.00 บาท
ระยะทาง 2.01-6 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทาง 6.01-40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ระยะทางมากกว่า 40 กิโลเมตร 12.00 บาทต่อกิโลเมตร
ค่ารถไม่เคลื่อนที่ 2.00 บาทต่อนาที
ค่าบริการแพลตฟอร์ม 20.00 บาท