ไมเนอร์ ซื้อหุ้น “ซิซซ์เล่อร์” 100% ในแฟรนไชส์แบรนด์ซิซซ์เล่อร์ทั่วโลก เพื่อเสริมแกร่งให้บริษัทในฐานะผู้นำในตลาดโลก
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบริการ ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ ประกาศว่า MINT ได้ตัดสินใจเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ในแฟรนไชส์แบรนด์ซิซซ์เล่อร์ทั่วโลก ยกเว้นในประเทศสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก และกัวเตมาลา โดยการเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในแผนการผลักดันการเติบโตของ MINT ไปทั่วโลก อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงตำแหน่งของ MINT ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมอีกด้วย
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- ศุภวุฒิ สายเชื้อ : แบงก์ชาติเป็นหน่วยงานรัฐ กฎหมายไม่มีคำว่า “อิสระ”
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
นายดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้นับเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับ MINT ซึ่งจะมาช่วยต่อยอดความสำเร็จที่บริษัทได้สั่งสมมาในอดีต ประกอบกับการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้นำในตลาดโลก โดยในฐานะที่ MINT เป็นผู้ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ของแบรนด์ซิซซ์เล่อร์มาอย่างยาวนานถึง 31 ปี ส่งผลให้ MINT เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัท Collins Foods Limited (“Collins Foods”) ซึ่งเป็นผู้ขายและเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของแบรนด์ซิซซ์เล่อร์
โดยมีส่วนช่วยในการผลักดันการเติบโตและสร้างชื่อเสียงในด้านร้านอาหารสไตล์ตะวันตกในทวีปเอเชีย ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ได้เสร็จสิ้นลง MINT จะเข้ามามีอำนาจควบคุมกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ร้านซิซซ์เล่อร์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย 64 สาขา และประเทศญี่ปุ่นอีก 10 สาขา
นายดิลลิปกล่าวต่อว่า โอกาสในการเข้าซื้อกิจการระดับโลกในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการกลับมาเติบโตและมีความพร้อมที่จะคว้าโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบของไมเนอร์ ฟู้ด MINT พิสูจน์ให้เห็นว่าได้ประสบความสำเร็จในการขยายแบรนด์ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศที่มีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ยากในการครองตลาดอย่างเช่นจีนและสิงคโปร์ และจากความสามารถของ MINT ในการพัฒนาแบรนด์ซิซซ์เล่อร์ที่ผ่านมา MINT จะสามารถปลดล็อกศักยภาพของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่
โดยบริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรม ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน และการดำเนินงานของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อขยายเครือข่ายของแบรนด์ซิซซ์เล่อร์ในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอื่น ๆ ทั่วโลก เช่น กลุ่มประเทศอาเซียนและตะวันออกกลาง
สำหรับสัญญาการขายดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 21 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 550 ล้านบาท จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท และเกิดขึ้นได้จากการที่บริษัทมีฐานะทางการเงินและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ด้วยรายได้ค่าลิขสิทธิ์ต่อปีของซิซซ์เล่อร์ที่มีอยู่ที่ 3.5-4 ล้านเหรียญสิงคโปร์ และผลกำไรเต็มจำนวนโดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์จากการดำเนินงานในประเทศไทย
“การลงทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจเป็นร้อยละที่เป็นตัวเลขสองหลัก โดยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา”
นายดิลลิปกล่าวทิ้งท้ายว่า ในขณะที่ MINT ได้ก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้ บริษัทมีความมั่นใจในความสามารถที่จะต่อยอดจากโอกาสในการเติบโตครั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า และจะยังคงย้ำถึงคำมั่นสัญญาของ MINT ที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมและความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในทุกเครือข่ายแบรนด์ทั้งหมดของบริษัท