“พรหมลิขิต” กระแส-เรตติ้งกระฉูด โกยเงินโฆษณาสวนทางสื่อทีวีขาลง

เปรี้ยงปร้าง กระแสแรง ! …เรตติ้งพุ่งกระฉูดตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศเลยทีเดียว สำหรับ “พรหมลิขิต” ที่ช่อง 3 เพิ่งส่งลงจอตอนแรกไปเมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคม (20.30 น.) ที่ผ่านมา

นี่คือละครฟอร์มยักษ์ รักโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ เป็นภาคต่อของละครดังแห่งยุค บุพเพสันนิวาส ผลงานของผู้จัด “หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์” แห่งค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ที่ได้นักแสดงนำคู่ขวัญ “โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” ที่รับบทเป็น พระยาวิสูตรสาคร / หมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด) / หมื่นณรงค์ราชฤทธา และ “เบลล่า ราณี แคมเปน” ที่รับบทเป็น เกษสุรางค์ / พุดตาน / การะเกด มาถ่ายทอดความสนุกอย่างต่อเนื่อง

“พรหมลิขิต” เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่บังเอิญไปเจอหีบโบราณและสมุดข่อย ซึ่งเป็นมนต์กฤษณะกาลีที่ถูกฝังเอาไว้ เมื่อแตะต้องมันทำให้ย้อนเวลากลับไปในอดีต

โดยก่อนจะออนแอร์ ช่อง 3 ได้เรียกน้ำย่อยแฟนละคร ด้วยรายการพิเศษ “กว่าจะเป็นพรหมลิขิต” ในวันอังคารที่ 17 ตุลาคม (18.00 น.)

Advertisment

หลังออนแอร์ไปได้ไม่กี่เพลา “พรหมลิขิต” ก็สร้างกระแสฟีเวอร์ไปทั้งพระนคร

ส่วนหนึ่งสะท้อนจากกระแสการเที่ยววัดไชยวัฒนารามในยามราตรี หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า งาน “ราตรีนี้… ที่วัดไชยฯ” ที่กรมศิลปากรจัดขึ้นตั้งแต่ 13 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2566 โดยจะมีการโชว์แสง สี ไฟประดับ ในเวลา 18.00-22.00 น. ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทั้งจากในพระนครศรีอยุธยาเอง จังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งจากกรุงเทพฯ

บรรดาร้านเช่าชุดไทยนับกว่าสิบร้านที่รายล้อมอยู่หน้าวัด ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า กระแสของละครดังช่วยสร้างรายได้ให้วันละนับล้าน (บาท)เลยทีเดียว และยังวาดหวังว่าบรรยากาศแบบนี้น่าจะคึกคักไปอีกจนถึงวันสุดท้ายของงาน

Advertisment

ไม่ต่างจากบรรยากาศความคึกคักของร้านหมูกระทะหลาย ๆ แห่ง ที่มีลูกค้าเข้าร้านหนาตาขึ้น หลังจากที่มีฉากนั่งวงล้อมกินหมูกระทะกันอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งนาย ทั้งบ่าว แต่คุณหญิงการะเกดเกิดปวดท้องจะคลอดลูกขึ้นมากะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ยังนั่งปิ้งนั่งคีบหมูกระทะกันอย่างเพลิดเพลิน

รายงานข่าวจากช่อง 3 ระบุว่า หลัง พรหมลิขิต ออกอากาศไปได้เพียงแค่ 2 ตอน เรตติ้งทั่วประเทศ 6.82 ในกลุ่มผู้ชมกรุงเทพฯ ทุบหนักไปถึง 12.98 และกลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไป ดีดไปถึง 10.33 ถือว่าสถิติเรตติ้งที่สูงสุดในปี 2566 เลยทีเดียว

นอกจากความสนุกน่าตื่นเต้นของละครแล้ว ยังมีการสอดแทรกรายการอาหาร โดยเฉพาะเมนูเด็ดหมูกระทะยังทำให้แฮชแท็ก # พรหมลิขิต ep2 พุ่งติดเทรนด์ x โลกอันดับ 5 ไม่พอยังพุ่งติดเทรนด์ x ประเทศไทยอันดับ 1 ด้วยยอดดูสดออนไลน์ 1.1 ล้านวิว

ที่สำคัญ ผู้บริหารช่อง 3 มั่นใจว่า “พรหมลิขิต” ที่กำลังออนแอร์อยู่นี้อาจจะมีเรตติ้งที่มาแรงกว่าละคร “หมอหลวง” ที่ผลการตอบรับค่อนข้างดี สะท้อนจากเรตติ้งที่สูงถึง 6.7-6.8 ในทุกตอนที่ออนแอร์

ถึงนาทีนี้เชื่อว่าแฟน ๆ ละครต่างตั้งตารอ นั่งเฝ้าหน้าจอทีวี-มือถือ สำหรับ ตอน 3 ตอน 4 ที่จะมาถึงในวันพุธ-พฤหัสบดีที่ 25-26 ตุลาคม แต่หลังจากวันที่ 30 ตุลาคมเป็นต้นไป ละครดังเรื่องนี้จะเพิ่มรอบออนแอร์ เป็นทุกวันจันทร์-พุธเวลา 20.30 น.เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม ก่อนวันที่ละครจะออนแอร์ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา “มีเดีย คอร์ป” กลุ่มบริษัทสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ ได้ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์พรหมลิขิตภาคต่อของละครบุพเพสันนิวาส จากช่อง 3 ไปออนแอร์บนแพลตฟอร์ม mewatch ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยจะออกอากาศวันเดียวกันกับการออนแอร์ในประเทศไทย โดยการนำเสนอใน 2 ภาษา ทั้งภาษาจีนและภาษาไทย

เรียกได้ว่าดังไกลไปถึงเมืองนอกเมืองนาเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ช่อง 3 และบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ยังได้ส่งละคร “พรหมลิขิต” ลงสตรีมสดใน “เน็ตฟลิกซ์” (Netflix) แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของโลก ซึ่งยอดเข้าชมขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยในหมวดเนื้อหา “รายการทีวี” ไปแล้ว

“ภวัต เรืองเดชวรชัย” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป หรือเอ็มไอ กรุ๊ป วิเคราะห์ปรากฏการณ์นี้กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระแสไวรัลของละครเรื่องพรหมลิขิตนี้ เป็นผลจากยุทธศาสตร์ของช่อง 3 ที่รักษากระแสความนิยมของละครบุพเพสันนิวาสให้อยู่ในความสนใจของผู้ชมต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการนำมารีรันหลายรอบ สร้างคอนเทนต์ออเจ้า คอนเทนต์ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ฯลฯ พร้อมกับที่โลกโซเชียลยังมีการพูดคุยถึงละครบุพเพสันนิวาสอยู่ตลอด จึงช่วยหล่อเลี้ยงกระแสเอาไว้ในความสนใจของผู้ชม

รวมถึงก่อนฉายพรหมลิขิต น่าจะมีการติดต่อแบรนด์สินค้าที่ เบลล่า เป็นพรีเซ็นเตอร์ ให้มาลงโฆษณาในช่วงการฉายตามด้วยเน้นย้ำเรื่องเรตติ้งที่สูงของการฉายสัปดาห์แรกในรายการต่าง ๆ ของช่อง เพื่อปลุกกระแสและดึงดูดผู้ชมมาเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของกระแสนี้จะส่งผลให้ช่อง 3 มีรายได้จากเม็ดเงินโฆษณามากขึ้น

ปรากฏการณ์นี้สะท้อนว่า คอนเทนต์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ หรือ content is king การมีคอนเทนต์ที่ดีจะสามารถดึงดูดผู้ชมและเม็ดเงินโฆษณาได้ แม้ทิศทางของสื่อจะเป็นขาลงก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดขณะที่กระแสกำลังฮอต ช่อง 3 ร่วมกับ บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จัดงานกิจกรรมใหญ่ ชวนทุกคนมา “นุ่งโจง ห่มสไบ” กับงาน “เยือนตลาดพรหมลิขิต สวมจริตออเจ้า” ตั้งแต่ 26 ต.ค.-5 พ.ย. 2566 ที่ ซีคอนสแควร์ ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์

ภายในงานจะมีการเนรมิตพื้นที่ทั้งหมดจำลองให้เป็นสถานที่สำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พร้อมนิทรรศการบุคคลสำคัญบอกเล่าเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ จัดแสดงชุดนักแสดงนำในละครและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น หีบเก็บมนต์กฤษณะกาลี, ผ้าลายทอง จากภูษาผ้าลายอย่าง

และที่ขาดไม่ได้คือ การกระทบไหล่นักแสดงจากละครพรหมลิขิต พร้อมแลกเบี้ยและเงินพดด้วงไว้เลือกซื้อสินค้าข้าวของเครื่องใช้ สามารถเลือกซื้อสำรับไทยโบราณ มีหลากเมนูที่หาทานได้ยากทั้งคาวหวาน กว่า 60 ร้านค้า รวมถึงสำรับคาวหวานตามรอยละคร อาทิ กุ้งเผา, น้ำพริกปลาทู, มะม่วงน้ำปลาหวาน, หมูโสร่ง ฯลฯ

เป็นการต่อยอดจากจอมาสู่กิจกรรมออนกราวนด์ เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมในละครให้มากขึ้น

ฮอตขนาดนี้ไม่ดูไม่ได้แล้ว สำหรับ “พรหมลิขิต”