เปิดจดหมาย “ท้าวทองกีบม้า” เล่าความทุกข์ยาก ถูกขังในคุกหลวง หลังสิ้น “ฟอลคอน”

ภาพตัวละครท้าวทองกีบม้าและลูกชาย จากละคร “พรหมลิขิต” โดยช่อง 3
ภาพตัวละครท้าวทองกีบม้าและลูกชาย จากละคร “พรหมลิขิต” โดยช่อง 3

การลงจอของละคร “พรหมลิขิต” ภาคต่อของ “บุพเพสันนิวาส” ละครยอดนิยมแห่งทศวรรษ สร้างความคึกคักให้กับแวดวงละครไทยและคนดูอีกครั้ง ด้วยกระแสตอบรับที่ดีไม่น้อยไปกว่าภาคแรก

นอกจากสร้างความสนุกสนานแล้ว ละคร “พรหมลิขิต” ได้กระตุ้นให้คนดูเกิดความสนใจค้นหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์และประวัติตัวละครในเรื่อง ซึ่งหลายคนมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

บุคคลที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเมื่อละครออกอากาศสองวันแรกเห็นจะเป็น “ท้าวทองกีบม้า” หรือ “มารี กีมาร์” มารดาแห่งขนมไทยผู้ไม่มีเชื้อสายไทย แต่เป็นคนเชื้อสายญี่ปุ่น โปรตุเกส และเบงกอล ซึ่งเธอเป็นภริยาของคอนสแตนติน ฟอลคอน หรือเจ้าพระยาวิไชเยนทร์

ขณะที่สามีของเธอยังมีชีวิตอยู่และอยู่ในช่วงรุ่งเรืองสุดขีด เป็นคนโปรดของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ท้าวทองกีบม้า หรือคุณหญิงวิไชเยนทร์มีชีวิตสุขสบายประดุจเจ้าหญิงคนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ถูกประหาร ชีวิตของเธอก็ผกผันสุดขีด จากที่เคยสุขสบายกลายเป็นต้องตกระกำลำบาก โดนจับขังไว้ในคุก อย่างที่หลายคนที่ดูละคร “พรหมลิขิต” คงได้เห็นภาพไปแล้ว

สภาพจริงที่ท้าวทองกีบม้าต้องเผชิญนั้นจะเหมือน หรือต่างจากในละครมากน้อยเพียงใด ก็ยากที่จะนึกภาพเอาเองได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่บรรยายภาพเหล่านั้น ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นต้นจากคำบอกเล่าของเท้าทองกีบม้าเอง ที่เธอได้เขียนบอกเล่าในจดหมายที่ส่งถึงบาทหลวงฝรั่งเศสซึ่งอยู่ ณ ประเทศจีน

ตามที่ศิลปวัฒนธรรมได้เผยแพร่จดหมายที่เขียนโดยท้าวทองกีบม้า ลงนาม D. Guimar de Pina ซึ่งคือชื่อของเธอ ลงวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1706 (พ.ศ. 2249) ตรงกับรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี หรือพระเจ้าเสือ (ขุนหลวงสรศักดิ์) จดหมายนี้เขียนเป็นภาษาละติน เขียนถึงบาทหลวงฝรั่งเศสซึ่งอยู่ ณ ประเทศจีน เพื่อขอให้บาทหลวงช่วยกราบบังคมทูลพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ว่า นับตั้งแต่เจ้าพระยาวิชเยนทร์ถึงแก่กรรมแล้ว ชีวิตของนางมีแต่ความทุกข์ยาก ไร้เกียรติ และยากจนข้นแค้น จึงขอให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีพระราชโองการให้บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศสคืนเงินค่าหุ้นของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ที่ได้ลงทุนไว้กับริษัทให้กับนาง

“…หากแต่วันนี้ คนที่เคยถูกเรียกขานกันว่าเป็นมารดาของเหล่ามิชชันนารี กำลังทุกข์ยากลำเค็ญอยู่ในคุกหลวง หล่อนต้องทนเจ็บปวดทรมาน ต้องเผชิญกับอันตรายนานัปการ ทั้งหล่อนต้องอยู่ในคุกมืดอับที่แทบไม่มีแสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาได้เลย หล่อนไม่ได้อาศัยอยู่ในที่หรูหราอีกต่อไปแล้ว ต้องนอนกับพื้นดิน บนความอับชื้น และได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะต่อสุขภาพของหล่อนสักเท่าใดนัก…”

จดหมายท้าวทองกีบม้า
จดหมายท้าวทองกีบม้า – ภาพสำเนาโดยอาจารย์ภูธร ภูมะธน (ภาพจากหนังสือ การเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน)
จดหมายท้าวทองกีบม้า
จดหมายท้าวทองกีบม้า – ภาพสำเนาโดยอาจารย์ภูธร ภูมะธน (ภาพจากหนังสือ การเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน)

ทั้งนี้ ต้นฉบับจดหมายฉบับนี้เก็บรักษาอยู่ ณ หอจดหมายเหตุกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส อาจารย์ภูธร ภูมะธน ได้ขอสำเนามา เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537

อ้างอิง : 

อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง