รองโฆษกรัฐบาลเผย เลื่อนประกาศบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกไปก่อน เพื่อให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน ผู้ถือบัตรรายเดิม 13.2 ล้านคน กรมบัญชีกลาง ยังโอนเงินสวัสดิการให้จนกว่าจะเริ่มโครงการใหม่
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้แจ้งการเลื่อนประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จากกรอบเวลาเดิมที่จะต้องมีการประกาศผลและยืนยันตัวตนผู้ผ่านคุณสมบัติภายในเดือน ม.ค. 2566
ทั้งนี้ เนื่องจากลงทะเบียนรอบนี้ได้มีการปรับเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการทั้งเกณฑ์บุคคลและเกณฑ์ครอบครัว จึงต้องมีการตรวจสอบสิทธิโดยหลายหน่วยงาน เพื่อให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ และจะประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็ว ซึ่งผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและข้อมูลต่าง ๆ ของโครงการได้ ผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือจากข่าวประชาสัมพันธ์ของกระทรวงการคลัง
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า การที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังจะยังคงดำเนินการโอนเงินสวัสดิการให้ผู้ถือบัตรรายเดิม จำนวน 13.2 ล้านคน ตามปกติ โดยในรอบเดือน ก.พ. 2566 การโอนเงินยังเป็นไปตามตาราง คือ
- วันที่ 1 ก.พ. 2566 โอนเงินซื้อสินค้า, ค่าก๊าซหุงต้ม, ค่ารถโดยสาร
- วันที่ 18 ก.พ. 2566 เงินคืนค่าไฟฟ้า เงินคืนค่าน้ำประปา
- วันที่ 22 ก.พ. 2566 เงินเพิ่มเบี้ยคนพิการ สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ถือมีบัตรประจำตัวคนพิการ
“กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ให้แล้วเสร็จ และประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็ว
ส่วนผู้ที่มีบัตรรายเดิมยังคงสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันสุดท้ายของเดือนก่อนเริ่มโครงการใหม่ ที่เมื่อกระทรวงการคลังประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติแล้ว การใช้สิทธิต่าง ๆ จะต้องใช้ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ หรือแบบสมาร์ทการ์ดเท่านั้น ส่วนบัตรสวัสดิการเดิมจะถูกยกเลิกไป” น.ส.ไตรศุลีกล่าว
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า เมื่อกระทรวงการคลังประกาศผลโครงการลงทะเบียนปี 2565 แล้ว ผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้สามารถตรวจสอบว่าตนเองผ่านคุณสมบัติใน 3 ช่องทาง ได้แก่
1.เว็บไซต์ทางการ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
2.ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
-
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย)
- สำนักงานคลังจังหวัด
- ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
- สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
- ศาลาว่าการเมืองพัทยา
3.โทรศัพท์สอบถาม สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากวันประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายค่าอะไรได้บ้าง ?
สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรมบัญชีกลาง ได้เบิกจ่ายและโอนเงินให้แก่หน่วยงานและร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 66)
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน, ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน และค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรเป็นผู้ชำระเอง)
ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง