เศรษฐา ประกาศ พร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 พาคนทั้งประเทศพ้นจากหลุมดำ

นายเศรษฐา ทวีสิน

เศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ประกาศพร้อมเป็นผู้นำที่มาเปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นรัฐบาลแก้จน ลดค่าไฟ ขึ้นค่าแรงทันที

วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ที่ลาน พาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประกาศความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคนที่ 30 ภายในงาน เปิดแคมเปญใหญ่สู้ศึกเลือกตั้ง 2566 จัดกิจกรรมเปิดตัวแคมเปญใหญ่ “เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที” ตอนหนึ่งว่า

ตนเห็นใจคนกรุงเทพฯ ที่ปากกัดตีนถีบไม่ได้เดินตามความฝัน ทั้งรายจ่ายที่สูงขึ้น รายได้ลดลง อุปสรรคเหล่านี้เป็นสิ่งกีดขวางความฝันประชาชน

ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลมีหลายอย่างที่เราจะทำ ซึ่งตนเคยถูกถามว่าถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแรกที่จะทำคืออะไร จะทำอย่างเดียวไม่ได้ต้องทำหลายอย่าง ปัญหาปากท้องเป็นปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อน 8 ปี ที่ผ่านมาเรามีผู้นำที่ไร้หัวใจ ไม่เข้าใจความยากลำบากของประชาชน

Advertisment

ค่าไฟต้องจัดการทันที ค่าแรงขั้นต่ำจะขึ้นทันที ทุกคนต้องมีสิทธิพื้นฐานในการเลือกอาชีพ ทหารไม่ได้เป็นอาชีพเดียวที่รักชาติ ถ้าชายไทยอายุ 20 ปี ประสงค์ทำอาชีพอื่นเขาควรได้รับอิสระภาพและสิทธินั้น แต่การบังคับให้เกณฑ์ทหารเป็นการลิดรอนสิทธิพื้นฐานของประชาชนจะแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ลูกหลานของเราต้องไม่ถูกบังคับให้เกณฑ์ทหาร

นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีความรู้สึกทุกครั้งที่เห็นนักการเมืองพูดถึงเรื่องความเห็นต่าง เรื่องชังชาติ ตนน้อยเนื้อต่ำใจมาก ที่พอคนรุ่นใหม่มีความเห็นต่างเรื่องเกณฑ์ทหารหรือเรื่องอื่นๆ แล้วขับไล่เขาออกจากประเทศที่เขารัก คนที่ออกไปได้เป็นคนมีศักยภาพ เพราะเสียบุคลากรสำคัญออกไป

เราควรมีพื้นที่ให้ลูกหลานแสดงความคิดเห็นภายใต้กรอบที่ไม่ก้าวร้าว เรารับไม่ได้ถ้าคนในรัฐบาลปัจจุบันบอกคนเห็นต่างเป็นคนชังชาติเชิญออกไป ถึงเวลาที่รัฐบาลนั้นต้องเปลี่ยนออกไปรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ออกมาแก้ไข

Advertisment

การพัฒนากรุงเทพฯ ว่า ตนหวังว่ากรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์กลางของความหลากหลายทางความคิด ความเสมอภาคและเท่าเทียม เรื่องเศรษฐกิจ กรุงเทพฯ มีคนอยู่มาก มีโรงเรียนนานาชาติ มีโรงพยาบาลระดับโลก เป็นเป้าหมายของบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลก แต่เราได้ไปเชิญเขาหรือไม่ว่าเมืองนี้มีอะไรดีดีบ้าง เป็นหน้าที่ผู้นำประเทศที่ต้องไปเชื้อเชิญ ไม่ใช่แค่ไม่กี่ประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน ยังมีประเทศในแอฟริกาเช่น ไนจีเรีย ที่มีประชากรจำนวนมาก เราต้องเดินทางออกไป เอาคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เอกชน ออกไปเจรจาการค้า

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเป็นเรื่องใหญ่ เราจะใช้บัตรใบเดียว ต่อไปไม่ใช่แค่คนชัันกลางที่จะมาใช้บริหาร แต่คนชั้นล่างจะมาใช้บริการได้ด้วย จะช่วยลดความแออัดไม่ต้องกระจุกอยู่แต่ในเมืองหลวงให้คนออกไปอยู่ชานเมืองได้ สำหรับจุดยืนเพื่อไทยในเวทีโลก เราเป็นประเทศเล็กแต่หน้าภูมิใจในเอกราช

ผู้นำต้องไปแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการรุกรานประเทศอื่น รวมถึงการใช้อาวุธสงครามรุกล้ำอธิปไตยประเทศอื่น นอกจากนี้ ด้านวินัยการเงินการคลังเราจะใช้ภาษีอย่างระมัดระวัง เพราะเราตระหนักดีที่ปัจจุบันหนี้สาธารณะสูงถึง 60% หนี้ครัวเรือน 90% ต่อจีดีพี เราไม่มีเวลาให้ใครก็ตามเข้ามาลองของ ต้องเป็นผู้นำตัวจริงเท่านั้น ถึงเวลาที่เราต้องการผู้นำที่มีประสบการ พรรคที่มีนโยบายเข้าใจปัญหาของประชาชน

“ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราไม่มีเวลาให้ใครก็ตามเข้ามาลองของ ต้องเป็นผู้นำตัวจริงเท่านั้น ถึงเวลาที่เราต้องการผู้นำที่มีประสบการณ์ พรรคที่มีนโยบายเข้าใจปัญหาของประชาชน วันนี้ผมมีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย แต่ผมไม่ได้อยากเป็นนายกฯเพราะได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ผมมายืนตรงนี้ มาที่นี้ ผมอยากเป็นนายกรัฐมนตรีที่นำ ซึ่งความเปลี่ยนแปลง ถ้าผมไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ผมไม่เป็นดีกว่า

“ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะนำมาซึ่งอนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานทุกคน ประสบการณ์ 30 ปีในวงการธุรกิจสร้างบริษัทจนเป็นแนวหน้าของประเทศ ผมมีความพร้อม ผมมาอยู่พรรคเพื่อไทยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วันนี้เพื่อไทย มีทั้งคนที่มีประสบการณ์ มีคนรุ่นใหม่ที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง 4 ปีที่แล้วเราพลาดไป 17 ที่นั่ง เป็นจุดเปลี่ยนทำให้ประเทศตกสู่หลุมดำ จนทำให้ จนแล้ว จนอยู่ จนอีก วันที่ 14 พฤษภาคม พรรคเพื่อไทย พร้อมทุกมิติ เป็นวันคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนคนไทยทุกคน นโบายดีดีที่พูดไปจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์” นายเศรษฐา กล่าว