
คอลัมน์ : Politics policy people forum
การเลือกตั้ง 66 เป็นสงครามสาดกระสุน-money politic ครั้งมโหฬารที่สุด นักการเมืองเก่า-บ้านใหญ่ล้มตายมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทิ้งเป็นร่องรอยทั้งก่อนเลือกตั้งไม่กี่ชั่วโมง-หลังเลือกตั้ง หลังจากมีผู้สมัคร ส.ส.-ส.ส.สอบตก ออกมาทวงค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการหาเสียง
- “ทรู-ดีแทค” ถล่มโปร “คืนค่าเครื่อง” ย้ำรวมกันได้มากกว่า
- หวั่น EV ไทย…ซ้ำรอยจีน
- มาม่า เคาะจ่ายปันผล 2.25 บาทต่อหุ้น XD 4 ต.ค. จ่ายจริง 18 ต.ค. 2566
พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นหนึ่งในจำนวนหลายพรรค ที่มีผู้สมัคร ส.ส.ออกมา “ทวงเงิน” พร้อม ๆ กับการออกมาแฉ “แกนนำ” บางคนที่ตกปากรับคำไว้ แต่กลับไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมาย-ยุทธศาสตร์สู้รบที่มีพรรคการเมืองแข่งขันกันดุเดือดมากที่สุด อย่างน้อย 4 พรรค ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ
อย่างรวมไทยสร้างชาติ ก่อนเลือกตั้ง “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเลย ชักแถวนำผู้สมัครออกมาเรียกร้องผู้บริหาร เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนเงินในการใช้หาเสียงเลือกตั้ง จนทำให้ผู้สมัครหลายคนเป็นหนี้-เป็นสิน
รวมถึงผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 1 และเขต 3 ที่ยุติการหาเสียง เนื่องจากถูก “ตัดท่อกลางอากาศ” ทุนไม่ถึง จึงทำได้เพียงประคับประคองเพื่อ “ห้ามเลือด” ส่วนหนี้สินจะรับผิดชอบให้
สุดท้ายผลการเลือกตั้งที่ออกมา จังหวัดพัทลุงได้มาเพียง “เก้าอี้เดียว” พิสูจน์ให้เห็นว่าเสียงลือ-เสียงเล่าอ้างมีมูลความจริง
ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคเงินถุงเงินถังอย่างพลังประชารัฐ ของบิ๊กบราเธอร์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังจาก “คมเดช มัชฌิมวงศ์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 นครศรีธรรมราช เป็นหน่วยกล้าตาย ออกมาทวงถาม
จน พล.อ.ประวิตร ต้องส่ง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ไปเป็น “หนังหน้าไฟ” มัดใจด้วยความไว้วางใจกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐกว่า 30 คน
ว่ากันว่า “เสธ.ต” คือ “คนถือถุงเงิน” คอยจัดแจง-ตัดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้ง ทำให้ผู้รับผิดชอบโดยตรงตัดสินใจได้เลย โดยเฉพาะตัดสินใจว่าจะสนับสนุนใคร-ไม่สนับสนุนใคร โดยคิดว่าจะสามารถใช้กลยุทธ์เดิมเหมือนการเลือกตั้งปี’62
บางครั้งใช้อำนาจคนใกล้ชิด-วงในบ้านป่ารอยต่อ เปลี่ยนจาก “ไซซ์ L” ลดลงเหลือ “ไซซ์ S” และ “หักหัวคิว” เงินหาเสียงเลือกตั้งจากผู้สมัคร ส.ส. โดยให้เซ็นรับเงินไปก่อนทั้งที่ต้องได้นับเต็มจำนวน จนทำให้ได้ ส.ส.เขตทั้งประเทศเพียง 39 ที่นั่ง
เป็น “เสธ.คนดัง” ที่เคยถูก “วีระกร คำประกอบ” อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พลังประชารัฐ ออกมาแฉว่า เป็น “คนถือตั๋ว-ถือบัตรคิว” บ้านป่ารอยต่อ จนเข้าถึงผู้ใหญ่ไม่ได้
ก่อนหน้านี้ “เสธ.ต” ปรากฏเป็นข่าวดัง หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ออกมาโวยว่า มี “เสธ.นายทหารม้านอกพื้นที่” เข้ามาใช้อิทธิพลยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 เมื่อปี’65
จนถูกกองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นคนใกล้ชิดกับอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทำงานช่วยรัฐบาล-พรรคพลังประชารัฐ
พล.อ.ประวิตรใช้เบี้ยเดินหมากอันตราย เพราะ “เสธ.ต” ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ อาจจะเข้าข่ายครอบงำ-ชี้นำพรรค สุ่มเสี่ยงถูก “ยุบพรรค” ได้
เนื่องจากพลังประชารัฐมี “ท่อน้ำเลี้ยง” จากบ้านป่ารอยต่อเพียง “ท่อเดียว” และเป็น “ท่อที่ใหญ่ที่สุด” พล.อ.ประวิตร จึงเหมือน “ถูกหลอก”
จึงไม่แปลกที่คนในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร “วางมือ” ฉันใด พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อฉันนั้น