ทันทีที่พ้น “เดดไลน์” วันประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. 13 กรกฎาคม 2566 พรรคประชาธิปัตย์ ดูฤกษ์ยามประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่-กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ กลางเดือนกรกฎาคม 2566
แคนดิเดตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ดูจะเข้าทาง “เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แม่ทัพภาคใต้มากที่สุด เพราะสามารถขนว่าที่ ส.ส.ภาคใต้เข้าพรรค-เข้าสภามากที่สุดถึง 17 ชีวิต แม้จะหลุดเป้าหมาย 40 ที่นั่งไปเยอะ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยผลการเลือกตั้งที่ออกมาอย่างไม่เป็นทางการ พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.เขต 22 คน เป็น ส.ส.ภาคใต้ถึง 17 คน ซึ่งมีน้ำหนักในการลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ถึง 70% ประกอบด้วย
นครศรีธรรมราช 6 ที่นั่ง ได้แก่ เขต 1 นายราชิต สุดพุ่ม เขต 2 นายทรงศักดิ์ มุสิกอง เขต 3 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช เขต 4 ว่าที่ ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ เขต 5 นายชัยชนะ เดชเดโช เขต 9 นางอวยศรี เชาวลิต
พัทลุง 2 ที่นั่ง ได้แก่ เขต 1 นางสุพัชรี ธรรมเพชร เขต 3 นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ ตรัง 2 ที่นั่ง ได้แก่ เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ เขต 4 นายกาญจน์ ตั้งปอง ปัตตานี 1 ที่นั่ง เขต 4 นายยูนัยดี วาบา
สงขลา 6 ที่นั่ง ได้แก่ เขต 1 นายสรรเพชร บุญญามณี เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง เขต 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เขต 9 นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง
ก่อนประกาศผลเลือกตั้งรับรอง ส.ส. “ชัยชนะ เดชเดโช” ว่าที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพนายชัยชนะ นายเดชอิศม์ และ “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแคปชั่นว่า
“3 พี่น้อง สักครู่เดี๋ยวมีคำตอบครับ อย่าคิดมากนะครับ 555”
จนเกิดกระแสข่าวลือตามมาว่า มีว่าที่ ส.ส. 16 คนของพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยกโขยงเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล
หลังจากนั้นนายเดชอิศม์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พวกเราชาวประชาธิปัตย์ เป็นหนึ่งเดียวครับ 22+2 = 24 คนครับ ส.ส.เขตทุกคนประชุมพูดคุยกันแล้วว่าเราเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
แต่วันนี้เรายังไม่ได้ปรึกษาหารือกันกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 2 ท่าน คืออดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ท่าน คือท่านชวน หลีกภัย และท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ฉะนั้นข่าวว่า 16 คน แยกตัวออกไป “ไม่เป็นความจริง” ครับ
“พรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้นว่าจำนวน ส.ส.จะเหลือน้อย แต่พรรคเรายังเป็นสถาบันทางการเมือง สุดท้ายอยู่ที่ ‘มติพรรค’ ครับ ผมเชื่อว่าพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคนเคารพมติพรรคครับ และทุกคนจะปฏิบัติตนตามมติพรรคแน่นอนครับ”
สำหรับประวัตินายเดชอิศม์ ได้รับการชักชวนจาก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ขณะนั้น ให้พบกับ “ชวน หลีกภัย” ผู้มีบารมี ก่อนสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จึงเปรียบเป็น “ครูคนแรกทางการเมือง”
นอกจากนี้ นายเดชอิศม์ยังได้รับการผลักดันจาก “ถาวร เสนเนียม” จนวินาทีสุดท้าย ให้เป็นรองหัวหน้าพรรค คุมภาคใต้แทนนายนิพิฏฐ์ที่ลาออกไป ก่อนที่ “ถาวร” จะลาออกไปอยู่กับ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในพรรคไทยภักดี
นายเดชอิศม์จึงมี “ผู้มีพระคุณ” ที่เป็นนักการเมืองขาใหญ่ปักษ์ใต้ถึง 2 คน
ทว่าการเลือกตั้ง 66 ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่าง “นายกชาย” กับ “ถาวร” ขาดสะบั้นลง เมื่อนายถาวรหนุนหลัง “หลานอั๋น” ภวดล วงษ์โสภณากุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง “คุณนายน้ำหอม” สุภาพร “หลังบ้าน” นายเดชอิศม์ ซึ่งในช่วงปราศรัยสู้รบ นายถาวรถึงกลับลั่นวาจาว่า “ขอกันกินมากกว่านี้”
ก่อนลงเล่นการเมืองในสีเสื้อพรรคสีฟ้า นายเดชอิศม์ หรือ “นายกชาย” เป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา 2 สมัย เป็นอดีตนายกสมาคมกีฬา จังหวัดสงขลา อดีตนายกสมาคมมวยอาชีพภาคใต้ อดีตนายกสมาคมชนโคไทย
โดยนายเดชอิศม์เป็น ส.ส.สงขลา สมัยแรกในการเลือกตั้งปี’62
ไม่ใช่ครั้งแรกที่กระโดดขึ้นมาเล่นการเมืองระดับชาติ เพราะการเลือกตั้งปี’48 ลงสมัคร ส.ส.สงขลา ใต้ชายคาพรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
“เดชอิศม์” ขึ้นถึงจุดสูงสุดในระนาบรองหัวหน้าพรรคคุมภาคใต้ โดยล้ม “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ส.ส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย ด้วยคะแนน 58.9% ชนะนายชินวรณ์ ที่ได้คะแนน 39.4%
หลังจากนั้นนายเดชอิศม์โชว์ฝีมือสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมจังหวัดชุมพร เขต 1 และ สงขลา เขต 6 ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม คู่กับ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ซึ่งสามารถกวาดมาได้ทั้ง 2 เก้าอี้
การเลือกตั้งปี’66 “เดชอิศม์” แม่ทัพคุมแดนใต้ “เดิมพันหมดหน้าตัก” จนสามารถกวาด ส.ส.ปักษ์ใต้ได้ถึง 17 ที่นั่ง
วันที่ 26 เมษายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ส.ส.สงขลา กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 พร้อมคู่สมรส คือ นายเดชอิศม์ (ชื่อเดิม นายวรวิทย์) และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจำนวน 2 คน
ซึ่งนางสุภาพร หรือ “คุณนายน้ำหอม” แจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่า “อยู่กินกันฉันสามีภรรยา” และมีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 2 คน มีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 635,822,761 บาท ดังนี้
บัญชีทรัพย์สินคู่สมรส น.ส.สุภาพร 299,086,692 บาท ประกอบด้วย
-เงินฝาก 44 บัญชี 19,976,780 บาท
-เงินลงทุน 67,150,043 บาท อาทิ บจก.แอล เอส โกลบอล 80,000 หุ้น 8,000,000 บาท บจก.ทรัพย์สมบัติ 2018 จำนวน 1,000 หุ้น 100,000 บาท บจก.โกลไดมอล พร็อพเพอตี้ 5,000 หุ้น 500,000 บาท บจก.ไทยอินเตอร์ เอส ดี กรุ๊ป 40,000 หุ้น 4,000,000 บาท บจก.ไทยอินเตอร์แมชชีน 175,000 หุ้น 17,500,000 บาท บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส 107,049 หุ้น 1,241,853 บาท
-ที่ดิน 43 แปลง 167,100,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นโฉนด อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา อ.รัตภูมิ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ครอบครองที่ดินเอกสาร น.ส.3 ก. จำนวน 2 แปลง ได้แก่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื้อที่ 50 ตารางวา (ตร.ว.) มูลค่าปัจจุบัน 200,000 บาท ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 10 ไร่ 85 ตร.ว. 3,000,000 บาท ห้องชุดลาดกระบัง กทม. 2,200,000 บาท
-โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4 หลัง 17,869,823 บาท อาทิ ที่อยู่อาศัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 7 ล้านบาท ที่อยู่อาศัย อ.สะเดา จ.สงขลา 1 ล้านบาท คอนโดฯลาดกระบัง กทม. 2,200,000 บาท คอนโดฯ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 5,500,000 บาท และ 2,169,823 บาท
-ยานพาหนะรถยนต์ 10 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน รวมมูลค่า 17,975,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 7,346,116 บาท ส่วนใหญ่เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิต ป้ายประมูล ทะเบียนรถ ขท 8888 สงขลา 510,000 บาท กษ 1111 สงขลา 460,000 บาท ขท 5555 สงขลา 300,000 บาท
-ทรัพย์สินอื่น 1,677,930 บาท อาทิ สร้อยคอ ทองคำขาว (สีขาว) ชุดเพชร 1 เซต สร้อยคอเพชร ต่างหูเพชร แหวนเพชร (ลายวงกลม+หัวใจเล็ก ๆ) ต่างหูเพชร (สีขาว ห่วงธรรมดา) แหวนเพชร ต่างหูหัวใจ สร้อยคอ กระเป๋าแบรนด์เนม 15 ใบ
-เงินเบิกเกินบัญชี 9 บัญชี 496,915 บาท เงินกู้จากธนาคารอิสลามฯ สาขาจะนะ จำนวนเงินกู้ตามสัญญา 3,900,000 บาท ยอดหนี้คงเหลือ 2,100,645 บาท
-หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 50 ล้านบาท ประกอบด้วย กสิกรลีสซิ่ง จำนวนเงินกู้ตามสัญญา 4,210,000 บาท นายบัณฑิตย์ สมบูรณ์ วันที่ทำสัญญา 3 ก.ค. 64 จำนวนเงินกู้ในสัญญา 20 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 20 ล้านบาท และนายฉัตรชัย จิระโร วันที่ทำสัญญา 17 มี.ค. 64 จำนวนเงินกู้ตามสัญญา 30 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 30 ล้านบาท
บัญชีทรัพย์สิน เดชอิศม์ 334,391,046 บาท ประกอบด้วย
-เงินฝาก 13 บัญชี 33,770,324 บาท
-เงินลงทุน 10,850,000 บาท อาทิ บจก.แอล เอส โกลบอล 100,000 หุ้น 10,000,000 บาท บจก.ทรัพย์สมบัติ 2018 จำนวน 8,500 หุ้น 850,000 บาท
-ที่ดิน 59 แปลง 243,635,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินใน อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา อ.รัตภูมิ อ.ควนเนียง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ครอบครองที่ดินเอกสาร น.ส.3 ก.จำนวน 16 แปลง
-โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง 26,200,000 บาท อาทิ สนามชนโค ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 25 ล้านบาท ที่อยู่อาศัย อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 1,200,000 บาท
-ยานพาหนะรถยนต์ 2 คัน รถแทรกเตอร์ 2 คัน รวมมูลค่า 8,759,000 บาท
-สิทธิและสัมปทาน มูลค่ารวม 7,319,722 บาท ส่วนใหญ่เป็นกรรมธรรม์ประกันชีวิต และป้ายประมูลทะเบียนรถ ขท 1111 สงขลา 390,000 บาท
-ทรัพย์สินอื่น 3,857,000 บาท อาทิ ปืน 7 กระบอก นาฬิกาหรูยี่ห้อ PATEX และ ROLEX รวม 4 เรือน สร้อยคอทองคำ 10 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 4 ใบ
-เงินเบิกเกินบัญชี 1 บัญชี 46,864 บาท
บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 2,345,023 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 2 บัญชี 178,992 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,166,031 บาท
หากเดชอิศม์จะก้าวเหยียบบันได-ไต่ขึ้นจุดสูงตำแหน่งสูงสุดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินมาถึงจุดต่ำสุดได้ ส.ส.น้อยที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งพรรคเก่าแก่ เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 9 พาพลพรรคเครื่องจักรสีฟ้าเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
