“OR” ชู 4 กลยุทธ์ ปั๊มกำไร ทะลุ 4 หมื่นล้านในปี 2030

จาก OR (Oil and Retail) สู่ RO (Retail and Oil) ซีอีโอชู 4 กลยุทธ์ฝ่าความท้าทายเศรษฐกิจ เทคโนโลยี Climage Change ปั๊ม EBITDA ทะลุ 4 หมื่นล้าน ปี 2030

วันที่ 25 พฤษภาคม 2565 นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ เปิดเผยในงานสัมมนา New Chapter เศรษฐกิจไทย จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ว่า

New Chapter “โออาร์” ในปัจจุบันจะไม่ได้ขายแค่น้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น แต่จะขยับขยายตัวเองสู่ธุรกิจใหม่ ๆ โดยหากมองระบบเศรษฐกิจไทยในภาคส่วนที่ลึกลงไปจะพบว่าหลังจากการระบาดโควิด-19 จะเห็นการเติบโตที่ไม่เท่ากัน ที่เรียกว่า K chaped นั่นคือผู้ประกอบการรายเล็กหรือผู้ประกอบการภาคส่วนการท่องเที่ยว การบริการ อาหาร มีการเติบโตที่ช้ากว่าธุรกิจด้านเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจมากขึ้น

ดังนั้น การฟื้นตัวจึงเป็นปัญหาหลักนับตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ขณะเดียวกันอีกปัจจัยที่มีผลอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งโลกและไทยเองคือ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climage change ) จากข้อมูลสหประชาชาติซึ่งจะเห็นได้ว่านับจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น 1.2 องศาเซลเซียส โดยเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว 2564 อุณหภูมิโลกสูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ 142 ปีเป็นต้นมา

จิราพร ขาวสวัสดิ์

จากปัจจัยข้างต้น เป็นปัจจัยที่นอกเหนือนอกจากการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ไม่เท่ากัน เช่นเดียวกันกับโออาร์ ธุรกิจก็ต้องปรับตัวจากผลกระทบดังกล่าว ทั้งค้าปลีกน้ำมันและอื่น ๆ หากมองธุรกิจพลังงาน จากเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด เป็นคนที่ใส่ใจและแคร์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ความมุ่งมั่นต่อจากนี้ก็จะใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น จากเดิมเป็นที่ใช้พลังงานฟอสซิลหรือแม้กระทั่งธุรกิจรีเทล อาทิ คาเฟ่อเมซอน จากที่ประสบผลสำเร็จก็ได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี Disruptive technology เช่นกัน

ดังนั้นด้านธุรกิจรีเทลจึงปรับมาคิดว่าคนหนึ่งคนสามารถเป็นได้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค นั่นคือเป็น Prosumer โออาร์เองก็เช่นกัน จากที่เคยเป็นผู้ผลิตปัจจุบันเคยเป็นผู้บริโภคก็มาเป็นผู้ผลิตด้วย จึงเห็นคนเข้าห้างสรรพสินค้า หรือ outlet ลดลง ทำให้ธุรกิจต้องมีการปรับตัว เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทำให้ต้องปรับตัวและจากโครงสร้างสังคมมีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว

ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ Next Chapter ที่ทุกคน ภาครัฐผู้ประกอบการไทยจะต้องลุกขึ้นมาสร้างความแตกต่างเปลี่ยนแปลงในตัวเรา ไม่ย่อท้อที่จะแบมือขออย่างเดียว

จิราพร ขาวสวัสดิ์

“โออาร์จึงต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ปรับและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งทุกคนจะเห็นแล้วว่า ด้วยบริบทสภาพแวดล้อมผู้บริโภคฟื้นตัวช้า ธุรกิจรายย่อยหายไป เราต้องเอื้อมเข้าไปดูแลเเละให้โอกาส ผ่านวิสัยทัศน์ Empowering all toward inclusive Growth เติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน

นั่นคือการเติบโตไปกับทุกชุมชน ในทุกภาคส่วนที่ธุรกิจของโออาร์ไปตั้งอยู่ จะต้องทำให้ชุมชนเข้มแข็ง มีรายได้ ตลอดจนรักษาสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดเป้าหมาย ภายในปี 2030 เป้าหมายแรก อาทิ การพัฒนาคน 12 ล้านชีวิต 15,000 ชุมชน ให้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้น”

อย่างไรก็ดี การทำธุรกิจนั้น ความสำเร็จในอดีตไม่ใช่สิ่งยืนยันความสำเร็จในอนาคตเสมอไป ในอดีตโออาร์ทำธุรกิจแบบ Inside -Out โออาร์สร้างและส่งต่อ 40 ปีที่ผ่านมาเป็นส่วนที่ให้โอกาสถึงปัจจุบันมีผู้แทนจำหน่ายและแฟรนไชส์จะส่งมอบ SME 80% ได้เป็นเจ้าของ ส่งผลให้ปัจจุบันมี 13,000 ราย เกิดการจ้างงาน 145,000 ราย แต่ถ้าส่งต่อแบบนี้จะไม่สอดคล้องไปสู่เป้าหมายความยั่งยืน จึงเปลี่ยนรูปแบบ

จิราพร ขาวสวัสดิ์

นับจากนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ Outside-in Growth (Partnership-based) ด้วยจุดแข็งโออาร์เป็นองค์กรขนาดใหญ่จากวิสาหกิจเป็นธุรกิจรีเทลทำงานใกล้ชิดกับเอกชน การเปลี่ยนวิถีนี้มีส่วนทำให้คนที่เป็นพาร์ตเนอร์ใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน โดยมีเครื่องมือ Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตร ผ่าน PTT station

โดยปัจจุบันมี 10 ประเทศ ที่ไปลงทุน และมีสถานีน้ำมันรวม 350 สาขา โดยจะเห็นว่า ขณะนี้วิกฤตน้ำมันใน สปป.ลาว โออาร์เป็นสถานีน้ำมันแห่งเดียวใน สปป.ลาวยืนหยัดร่วมกับชาว สปป.ลาว แม้ว่าค่าเงินกีบอ่อนตัวอย่างแรงแต่จะเห็นได้ว่าจะเห็นว่า PTT station ยังเปิดให้บริการ

ส่วน Digital platform ปัจจุบันมีสมาชิกบลูการ์ด 7.5 ล้านราย ตั้งเป้าปลายปี 2565 จะมีดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์เพื่อสร้าง Eco system และให้คู่ค้าเข้ามาหลอมรวมกัน รวมถึง start up เข้ามาดูโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่แรงงานไทย การลงทุนไทยก้าวมาสู่ New chapter Thailand

นอกจากนี้ ยังกำหนดเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจภายในปี 2030 ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน 1.Seemless Mobility อนาคตและใกล้เวลาแล้วที่เรื่องของพลังงานสะอาดจะมา ทำให้การเปลี่ยนผ่านไร้รอยต่อ โดยตั้งเป้าว่า

จิราพร ขาวสวัสดิ์

ภายใน 2030 จะมีสถานีชาร์จ 7,000 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมี 106 แห่ง และจะขยายเป็น 450 แห่งภายในสิ้นปีนี้ สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจรถอีวีมากขึ้น พร้อมการพัฒนาแอป “PTT Station PluZ” ให้ดาวน์โหลดเพื่อช่วยในการวางแผนการเดินทาง และจองคิวสถานีชาร์จได้ทุกเวลา

2.All Lifestyles การสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ เป็นธุรกิจในกลุ่ม Non-oil ทั้งธุรกิจของ OR ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอนร้านสะดวกซื้อ โดยสิ้นปีนี้จะมี All in one Aplication

3.Global Market ผ่านรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Asset Light Model ด้วยการลงทุนร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ เกิด Win-win Situation ให้ได้มีโอกาสขยายธุรกิจไปกับเรา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ ซึ่งโออาร์มีจุดเเข็งการทำธุรกิจที่คนในประเทศนั้นเชื่อถือ เป็นแต้มต่อในการผลักดันแบรนด์ไทยสู่แบรนด์โลก

จิราพร ขาวสวัสดิ์

สุดท้าย 4. OR Innovation การแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับของ OR เป็นการลงทุนด้านอินโนเวชั่นใหม่ ๆ และกลุ่มสตาร์ตอัพ ผ่าน ORZON Ventures เพื่อทำให้ OR เป็นต้นแบบองค์กรในศตวรรษที่ 21 เป็นการเติบโตแบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ได้มีโอกาสแค่เงินทุนแต่จะสามารถเข้ามาร่วมเติบโตร่วมกัน

ทั้งนี้ การดำเนินงานทั้งหมดอยู่ในแผนการการลงทุน 2030 มูลค่า 2 แสนล้านบาท โดยโออาร์ตั้งเป้ามีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ก้าวกระโดดเพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจะขึ้นมาทำกำไร สัดส่วนถึง 50% และแน่นอนว่า อนาคตพอร์ตของ “OR” (Oil and Retail) จะเปลี่ยนเป็น RO (Retail and Oil)

“ทั้งหมดนี้คือความหวังนำไปสู่ New chapter Thailand และยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ สุดท้ายโออาร์จะเป็นองค์กรต้นแบบแห่งศตวรรษ 21 ทุกอย่างมีทั้งโอกาสและอุปสรรค นับจากนี้ไปเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในระดับที่แตกต่างกัน ความสำเร็จในอดีตไม่ใช่สิ่งยืนยันความสำเร็จในอนาคต” นางสาวจิราพร กล่าวทิ้งท้าย