BIGBANG คัมแบ็ก ในรอบ 4 ปี ส่องรายได้ YG Ent. รวยขนาดไหน

BIGBANG คัมแบค ในรอบ 4 ปี ส่องรายได้ YG Ent. มีรายได้ขนาดไหน

เปิดผลประกอบการ YG Entertainment ในวันที่ BIGBANG คัมแบ็ก กลับมาร้องเพลง ปล่อยซิงเกิลอีกครั้งในรอบ 4 ปี 

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ VIP (วี.ไอ.พี.) แฟนคลับของ BIGBANG ศิลปินบอยแบนด์จากเกาหลีใต้ สังกัด YG Entertainment ที่ได้รับฉายาว่า King of K-pop หลังเฝ้ารอคอยการกลับมาทำเพลงอีกครั้งในรอบ 4 ปี

ในวันนี้ (5 เม.ย.) เวลา 00.00 น. ตามเวลาในเกาหลีใต้ ต้นสังกัดได้ปล่อยเพลงซิงเกิลใหม่ เพลง Still Life โดย 4 หนุ่ม BIGBANG ประกอบด้วย จี-ดรากอน, ที.โอ.พี, แทยัง และแดซอง ได้ปล่อยเพลงช้าแนวซอฟต์ร็อก ซึ่งเป็นเรื่องราวของสมาชิกทั้ง 4 คนที่เป็นตัวแทน 4 ฤดู ไม่ว่าจะเป็นฤดูที่ใบไม้ผลิดอก (Spring) ฤดูร้อน (Summer) ฤดูใบไม้ร่วง (Fall) และฤดูหนาว (Winter) สมาชิกแต่ละคนถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเสียงร้องเพลงสุดไพเราะและสุดซาบซึ้ง

ประวัติ BIGBANG

“BIGBANG” เปิดตัวหรือเดบิวต์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2549 ที่ยิมนาสติก อารีน่า ในโซล โอลิมปิก ปาร์ก ระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตวายจีแฟมิลี่คอนเสิร์ตปีที่ 10 เดิมมีสมาชิกทั้งสิ้น 5 คน แต่ปัจจุบันนี้เหลือ 4 คน ได้แก่ จี-ดรากอน, ที.โอ.พี, แทยัง และแดซอง ส่วนสมาชิกคนที่ 5 คือ “ซึงรี” ได้ประกาศยุติกิจกรรมในวงการบันเทิงไปเมื่อปี 2563

“BIGBANG” ถือเป็นวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับท่าเต้นมากที่สุดวงหนึ่งของทวีปเอเชีย และได้รับการขนานนามว่าเป็น “Revolutionary Group of Hallyu Wave” ที่มีแนวดนตรีเป็นเอกลักษณ์ของตนเองเมื่อเปรียบเทียบกับวงดนตรีเกาหลีอื่น ๆ พวกเขายังนับว่าเป็นผู้นำบอยกรุ๊ปของ Hallyu อันเนื่องมาจากความสำเร็จและมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่

ตั้งแต่พวกเขาเปิดตัวครั้งแรก “BIGBANG” ยังประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ซิงเกิล, และอัลบั้มเพลง ถึงแม้ว่าอัลบั้มเต็มชุดแรก บิ๊กแบง วอรูม. วัน (BigBang Vol. 1) จะยังไม่ถูกใจแฟนเพลงเท่าไหร่นัก เนื่องจากพวกเขาพยายามจะให้เป็นแนวเพลงแบบฮิอฮอปและอาร์แอนด์บีร่วมสมัย

ต่อมาพวกเขาก็ประสบความสำเร็จจากอัลบั้มชนิดอีพี อัลบั้มแรกคือ ออลเวย์ส (Always) ในปี 2550 เกือบจะครบ 1 ปีที่ออกอัลบั้มเพลงในอัลบั้มอย่างไลส์ (Lies) ก็ฮิตติดอันดับ 1 ในหลายชาร์ตเพลงเป็นเวลา 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

ส่องหุ้น-เปิดผลประกอบการ YG 

“BIGBANG” เป็นศิลปินในบริษัทวาย จีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมบันเทิงจากเกาหลีใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 โดย ยัง ฮยอน-ซอก บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นค่ายเพลง, ตัวแทนนักแสดง, ผลิตเพลง, การจัดงานอีเวนต์/คอนเสิร์ต และตัวแทนนักแต่งเพลง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกิจในเครืออีกหลายบริษัท รวมถึงบริษัทจัดจำหน่ายและผลิตสินค้า, เสื้อผ้า, กอล์ฟ และแบรนด์เครื่องสำอาง

ขณะที่ ศิลปินภายใต้สังกัดในปัจจุบัน ได้แก่ เชกส์กีส์ (SECHSKIES), บิ๊กแบง (BIGBAN), วินเนอร์ (WINNER), ไอคอน (iKON), แบล็กพิงก์ (BLACKPINK) และเทรเชอร์ (TREASURE) 

ตลอดจนนักแสดงชายและหญิงอย่าง คัง ดง-วอน, ชเว จี-อู, ชา ซึง-วอน, อี ซอง-คยอง, จินคยอง และยู อิน-นา รวมถึง ชอน โซ-มี และควอน ฮยอน-บิน ภายใต้สังกัด​เดอะแบล็กเลเบิล และวายจีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ด้วย

ข้อมูล ณ วันที่ 4 เมษายน 2565 เวลา 18.00 น. ตามเวลาในเกาหลี พบว่าหุ้นของ YG Entertainment ในวันนี้ไม่ค่อยดีนัก ยังลดลงต่อเนื่อง เปิดตลาดด้วย 71,600 วอน/หุ้น และปิดตลาดด้วย 70,300 วอน/หุ้น (ประมาณ 1,937.14 บาท) โดยปิดตลาดลดลง 1.13%  

ALL K-pop สื่อบันเทิงเกาหลี รายงานผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ของ 4 ค่ายเพลงดังของเกาหลีประกอบด้วย YG Entertainment, Big Hit Entertainment, JYP Entertainment, SM Entertainment 

ในรายละเอียดซึ่งเป็นผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2564 พบว่า YG Entertainment มีผลประกอบการอยู่ที่ 77,200 ล้านวอน (ประมาณ 2,125 ล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 6,400 ล้านวอน (ประมาณ 176.23 ล้านบาท) 

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า ผลประกอบการไตรมาส 4 ของ YG เป็น “Earning Shock” เนื่องจากผลกระทบที่ขาดศิลปิน อย่าง “ซงมินโฮ” และ “คังซึงยุน” ไป

ขณะที่ข้อมูลจากเว็บไซต์ investing.com ระบุถึงผลประกอบการ 4 ปีล่าสุด พบว่า 

  • ปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 269,020 ล้านวอน (ประมาณ 7,431 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 17,180 ล้านวอน (ประมาณ 474 ล้านบาท)
  • ปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 253,580 ล้านวอน (ประมาณ 6,999,3 ล้านบาท) กำไรสุทธิ -21,530 ล้านวอน (ประมาณ 594 ล้านบาท)
  • ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 255,260 ล้านวอน (ประมาณ 7,045 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 260 ล้านวอน (ประมาณ 7,431 ล้านบาท)
  • ปี 2564  มีรายได้รวมอยู่ที่ 355,630 ล้านวอน (ประมาณ 9,816 ล้านบาท) กำไรสุทธิ 6,660 ล้านวอน (ประมาณ 183 ล้านบาท)

2 สมาชิก BIGBANG ถือหุ้นบริษัทในเครือ YG

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 สื่อเกาหลีใต้ระบุว่า จี-ดรากอนและแทยังได้ลงทุนเงินจำนวนหลายพันล้านวอนให้กับบริษัทในเครือ YG ประกอบด้วย จี-ดรากอน ลงทุน 2,000 ล้านวอน (ประมาณ 55 ล้านบาท) และแทยัง ลงทุน 300 ล้านวอน (ประมาณ 8.2 ล้านบาท) ในบริษัท YG Plus ซึ่งเป็นธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าของศิลปินไปทั่วโลก 

อีกทั้ง จี-ดรากอน ยังลงทุนอีก 1 พันล้านวอน (ประมาณ 27 ล้านบาท) และแทยัง ลงทุน 300 ล้านวอน (ประมาณ 8.2 ล้านบาท) ใน Code Cosme International (Moonshot Cosmetics) ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องสำอาง

เมื่อรวมแล้วจี-ดรากอน ลงทุนไป 3,000 ล้านวอน (ประมาณ 82.6 ล้านบาท)  และแทยัง ลงทุนไป 600 ล้านวอน (ประมาณ 16 ล้านบาท) ใน 2 บริษัท

หมดสิทธิใช้ชื่อ หากไม่ต่อสัญญา YG

นอกจากนี้ ยังมีรายงานในช่วงปี 2562 ระบุว่า จี-ดรากอน และ แทยัง 2 สมาชิก BIGBANG จะเสียสิทธิในชื่อศิลปินของพวกเขา หากพวกเขาไม่ต่อสัญญากับ YG

ตามรายงานของสำนักงานสิทธิบัตร YG ได้รับสิทธิในเครื่องหมายการค้าเมื่อต้นปี 2546 ให้กับจี-ดรากอน ก่อนที่ BIGBANG จะเดบิวต์ในปี 2549 นอกจากนี้ ค่ายเพลงยังได้จดสิทธิในเครื่องหมายการค้ากับแทยังในปี 2558 ด้วย 

ขณะเดียวกัน ในปี 2563 YG ได้จดลิขสิทธิ์ชื่อและนามสกุลของลิซ่า BLACKPINK หนึ่งในศิลปินคนไทยภายใต้สังกัดในชื่อ “Manobal Lalisa” และ “Manobal” เป็นเครื่องหมายทางการค้าในหมวดหมู่ของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ครอบคลุมตั้งแต่ชุดชั้นใน, เสื้อผ้าสำเร็จรูป, ผ้าพันคอ, หมวก, เสื้อเชิ้ต ฯลฯ

ทั้งนี้ หากศิลปินคนใดเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทาง YG ก็จะหมดสิทธิในการใช้ชื่อดังกล่าวในวงการบันเทิงต่อไป