
Little Hotelier เผยอัตราการเข้าพักโรงแรมเดือน ก.พ. 66 พุ่งทะลุก่อนโควิดไปแล้ว ต่างชาติจองแน่นเกือบ 80% เชื่อปีนี้จีนครองสัดส่วน นทท.ต่างชาติ แนะผู้ประกอบการจับกลุ่ม Workation พร้อมออกแบบข้อเสนอที่ยืดหยุ่น
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์ ผู้จัดการ Little Hotelier ประเทศไทย เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก Siteminder แพลตฟอร์มตัวกลางระหว่างลูกค้าและธุรกิจโรงแรม เปิดเผยข้อมูลอัตราการเข้าจองห้องพักในประเทศไทยและทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 (ระหว่างวันที่ 1-6 กุมภาพันธ์) ระบุว่า มีระดับสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 ไปแล้ว
โดยที่พักในประเทศไทยมีอัตราการจองห้องพักอยู่ที่ 126.1% และที่พักในต่างประเทศมีอัตราการจองห้องพักอยู่ที่ 113.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อนการระบาดของโควิด-19

ขณะที่อัตราค่าที่พักเฉลี่ยรายวันของโรงแรมผ่านระบบ SiteMinder ในปี 2565 สูงกว่าก่อนการระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว โดยอยู่ที่ 3,642 บาท เทียบกับปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 3,433 บาท จึงเสนอว่า ในปี 2566 นี้ ผู้ประกอบการควรกำหนดราคาที่พักโดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสำคัญ เนื่องจากเทรนด์การเดินทางระหว่างประเทศได้กลับมาแล้ว ราคาห้องพักให้แปรผันไปตามสถานการณ์

นายสุภกฤษฎิ์กล่าวว่า ในเดือนธันวาคม 2565 ประเทศไทยมีสัดส่วนชาวต่างชาติทำการจองห้องพักเข้ามาราว 75% และชาวไทย 25% ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีสัดส่วนชาวต่างชาติจองห้องพักอยู่ที่ 78.58% ขณะที่ชาวไทยจองอยู่ที่ 21.42%
“จากข้อมูลของโรงแรมที่ใช้ระบบ SiteMinder และ Little Hotelier พบว่าตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2565-มกราคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนจองที่พักเพิ่มขึ้น 41% มียอดจองสูงกว่าประเทศอื่น ๆ และเชื่อว่าในปี 2566 นี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนจะเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนครองสัดส่วนสูงที่สุดในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ” ผู้จัดการ Little Hotelier ประเทศไทยกล่าว

สำหรับในปี 2565 ช่องทางการจองที่สร้างรายได้ในประเทศไทยสูงสุด ได้แก่ 1.Booking.com 2.Agoda 3.เว็บไซต์โรงแรม (จองตรง) 4.Expedia 5.Hotelbeds 6.Trip.com (จากประเทศจีน) 7.Goibibo & MakeMyTrip (จากประเทศอินเดีย) 8.Traveloka 9.Webbeds และ 10.Luxury Escapes
จึงนำไปสู่กลยุทธ์ที่ว่า ในปี 2566 ผู้ประกอบการโรงแรมควรให้ความสำคัญกับช่องทางการจัดจำหน่ายที่ตรงต่อกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเว็บไซต์โดยตรงและ OTA เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีนอาจเลือกใช้ Trip.com นักท่องเที่ยวอินเดียเลือกใช้ Goibibo & MakeMyTrip
ผู้บริหารของ Little Hotelier กล่าวต่อไปว่า ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมีระยะเวลาการเข้าพักที่ 2.26 วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 2.22 ส่วนหนึ่งเกิดจากวิถีการทำงานที่เปลี่ยนไปสู่การทำงานพร้อมออกเดินทาง (Workation) เพิ่มมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันพบว่าอัตราการยกเลิกห้องพักยังคงอยู่ที่ระดับ 1 ใน 5
“เสนอว่าผู้ประกอบการอาจจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่พักระยะยาว และในเวลาเดียวกัน ความยืดหยุ่นของแพ็กเกจยังมีความสำคัญ” นายสุภกฤษฎิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้น แต่ปัจจัยลบของภาคธุรกิจโรงแรมในปี 2566 คือ ปัญหาขาดแคลนพนักงานจะยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม ซึ่ง Little Hotelier มีโซลูชั่นสำหรับธุรกิจโรงแรมรายย่อย ผ่านคุณสมบัติที่มีความเรียบง่าย ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลในระบบวางแผนการตั้งราคาให้เหมาะสม บรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานในเวลาเดียวกัน
Little Hotelier เป็นระบบที่สร้างมาเพื่อช่วยธุรกิจที่พักขนาดเล็กในการบริหารจัดการที่พัก ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 9,000 แห่งทั่วโลก มีโซลูชั่นแบบ all-in-one ที่ครอบคลุมการดูแลระบบ เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน และเพิ่มผลกำไรสูงสุด Little Hotelier อยู่ภายใต้การดูแลของ SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มด้านโฮเทลคอมเมิร์ซแบบ Open Platform
ระบบดังกล่าว ยังให้บริการในหลากหลายประเทศ ทั้งไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร มีลูกค้าโรงแรมกว่า 9,000 แห่งทั่วโลก สำหรับประเทศไทยพบว่าครองอันดับหนึ่งด้านจำนวนลูกค้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
นายสุภกฤษฎิ์กล่าวว่า โรงแรมที่เข้ามาร่วมกับ Little Hotelier เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีสัดส่วนโรงแรมอยู่ในเมืองท่องเที่ยวส่วนใหญ่ สำหรับปี 2566 บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าโรงแรมในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยหวังว่าโซลูชั่นที่มี ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญด้านเทคโนโลยีมากนัก จะตอบโจทย์ลูกค้าโรงแรมเมืองรองได้
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทมีการเติบโตด้านจำนวนลูกค้าราว 35% เมื่อเทียบกับปี 2562 และในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเติบโตในจำนวนลูกค้า 30%