ธุรกิจท่องเที่ยว

เอเย่นต์จีนทุบราคา จับตาวงจร “ทัวร์ต่ำกว่าทุน” คืนชีพ

ทัวร์ต่ำกว่าทุน

ทันทีที่รัฐบาลจีนเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม “กรุ๊ปทัวร์” ออกเที่ยวนอกประเทศใน 20 ประเทศได้เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2566 บรรยากาศการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ พัทยา (ชลบุรี) ภูเก็ต และเชียงใหม่ ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง

โดยนักท่องเที่ยวจีนคือ “ความหวัง” ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

จีนโหมขาย “ทัวร์ราคาถูก”

แหล่งข่าวจากบริษัทนำเที่ยวตลาดจีนรายหนึ่งให้ข้อมูลกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากกรุ๊ปทัวร์เริ่มออกเดินทาง บรรยากาศการขายแพ็กเกจทัวร์เที่ยวเมืองไทยในจีนคึกคักขึ้นตามลำดับ และเริ่มเห็นภาพการแข่งขันด้าน “ราคา” แล้ว

โดยบริษัททัวร์รายใหญ่ที่ทำธุรกิจเป็น “โฮลเซล” หรือจัดแพ็กเกจรายการนำเที่ยวสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพื่อให้เอเย่นต์ทั่วไปนำไปทำตลาดต่อทยอยออกแพ็กเกจทัวร์ “ราคาถูก” ออกมาอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะโปรแกรมเที่ยวกรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-พัทยา ฯลฯ มีการขายราคาแพ็กเกจ 1,799 หยวน แพ็กเกจ 1,999 หยวน แพ็กเกจ 2,599 หยวน แพ็กเกจ 2,799 หยวน และแพ็กเกจ 3,688 หยวน

ยกตัวอย่างเช่น แพ็กเกจกรุงเทพฯ 7 วัน 6 คืน ราคา 1,799 หยวน สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ บินตรงจากกว่างโจว-กรุงเทพฯ มีโปรแกรมท่องเที่ยวหลักคือ ตลาดรถไฟแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) ตลาดน้ำดำเนินสะดวก (ราชบุรี) รับประทานบุฟเฟต์ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ดูโชว์ที่โอเรียนทอลปริ๊นเซส เป็นต้น

แพ็กเกจกรุงเทพฯ-พัทยา 6 วัน 5 คืน ราคา 2,599 หยวน สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ บินตรงจากกว่างโจว-กรุงเทพฯ มีโปรแกรมท่องเที่ยวหลักคือ ตลาดนัดรถไฟ รัชดา ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ตลาดแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) รับประทานบุฟเฟต์ คิง เพาเวอร์ ดูโชว์ ฯลฯ พักโรงแรม 5 ดาว หรือเทียบเท่า ฯลฯ

แพ็กเกจกรุงเทพฯ-พัทยา 6 วัน 5 คืน ราคา 27,999 หยวน (ไม่ระบุสายการบิน) มีโปรแกรมท่องเที่ยวหลักคือ ตลาดนัดรถไฟ รัชดา ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา ตลาดแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) รับประทานบุฟเฟต์ชั้น 76 ใบหยก และบุฟเฟต์นานาชาติที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ฯลฯ และมีบริการที่พักที่สนามบินขาออกพิเศษ 1 คืน เป็นต้น

“เครือข่ายจีน” กินรวบ

กับแหล่งข่าวอีกรายหนึ่งที่บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาแพ็กเกจทัวร์เที่ยวไทยที่ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นราคาที่ถูกมาก ถูกแบบไม่น่าเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นเปิดประเทศ เนื่องจากปัจจุบันยังมีความต้องการเดินทาง หรือ pending demand ที่สูงมาก

“ตอนนี้ในวงการคนทำทัวร์จีนในเมืองไทยมองกันว่าราคามาต่ำเกินไป ซึ่งหากทำธุรกิจตามระบบที่เป็นมาตรฐานทั่วไปขาดทุนแน่นอน ทำให้เอเย่นต์ทัวร์รายเดิมที่เคยทำตลาดจีนจำนวนมากยังไม่กล้าทำ ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ตอนนี้เอเย่นต์ทัวร์ทุกคนส่ายหัว”

พร้อมระบุว่า คนที่ทำตลาดอยู่คือ เอเย่นต์รายใหม่ หรือเอเย่นต์ที่เป็นเครือข่ายของบริษัททัวร์รายใหญ่ของจีนเป็นหลัก

“ทัวร์ต่ำกว่าทุน” คืนชีพ

“สุรวัช อัครวรมาศ” รองประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาไทยในเวลานี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง หรือกลุ่ม FIT

ส่วนนักท่องเที่ยวประเภทกรุ๊ปทัวร์นั้นกำลังเริ่มทยอยเข้ามา หลังจากรัฐบาลจีนอนุญาตให้บริษัททัวร์จัดทัวร์และทำการโฆษณาแพ็กเกจได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการขายแพ็จเกจทัวร์ของบริษัททัวร์ในฝั่งจีนพบว่า มีการขายทัวร์ราคาถูกจริง โดยมีตั้งแต่แพ็กเกจ 1,799 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท แพ็กเกจ 1,999 หยวน หรือราว 10,000 บาท แพ็กเกจ 2,799 หยวน หรือประมาณ 14,000 บาท แพ็กเกจ 3,399 หยวน หรือประมาณ 17,999 บาท ฯลฯ

ขณะที่เฉพาะราคาตั๋วเครื่องบินจากจีนมาไทยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,500 หยวน หรือประมาณ 12,500 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะทางการบิน)

“สุรวัช” บอกด้วยว่า หากลูกค้าซื้อแพ็กเกจ 1,799 หยวน หรือแพ็กเกจ 1,999 หยวน เฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินยังไม่พอ แล้วค่าที่พัก ค่าอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ค่าไกด์ และกำไรจะมาจากไหน

ดังนั้น ถ้าดูจากราคาแพ็กเกจทัวร์ที่ขายอยู่ในขณะนี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าอาจเป็นการจัดกรุ๊ปทัวร์ที่อาจมีทัวร์ทางเลือก หรือ optional ขายเพิ่มเติม หรือที่เรียกว่า “ทัวร์ต่ำกว่าทุน”

จุดนี้คือ สัญญาณที่น่าจับตาว่าวงจรของ “ทัวร์ต่ำกว่าทุน” จะหวนกลับมาอีกหรือไม่

ททท.ยันหนุน “ทัวร์คุณภาพ”

“ชูวิทย์ ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า ส่วนตัวได้เห็นแพ็กเกจการขายโปรแกรมทัวร์ราคาถูกของเอเย่นต์ฝั่งจีนเช่นกัน ทั้งนี้ มองว่าปรากฏการณ์นี้อาจเกิดขึ้นเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางครั้งแรก

“ปรากฏการณ์ลักษณะนี้เราควบคุมยาก เพราะเป็นเรื่องของจีน ซึ่งเขาก็มีกฎ กติกาควบคุมที่ชัดเจนของเขาอยู่ โดยให้เลือกว่าจะซื้อทัวร์แบบมีช็อปปิ้ง หรือทัวร์แบบไม่มีช็อปปิ้ง ถ้าซื้อทัวร์ที่ไม่มีช็อปปิ้งราคาก็จะแพง ถ้าซื้อทัวร์ช็อปปิ้งราคาก็จะถูกลงมา”

“ชูวิทย์” บอกว่า แม้จะเกิดปรากฏการณ์ขายแพ็กเกจทัวร์ราคาถูกออกมา แต่เชื่อว่ายังไม่เกิดขึ้นในเมืองไทย ดังนั้นอยากให้ภาคเอกชนทุกส่วนช่วยกันจับตา ดูแล และวางมาตรการควบคุมกันเอง เพื่อช่วยกันรักษามาตรฐานเพื่อไม่ให้ทัวร์ต่ำกว่าทุนกลับมาเกิดซ้ำอีก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ททท.นั้นจะเน้นการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เน้นทำทัวร์คุณภาพ ใช้จ่ายสูง และพักระยะยาวเป็นหลัก เพื่อขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล

วอนรัฐสกัด “นอมินี”

ด้าน “ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) หรือสมาคมทัวร์อินบาวนด์ บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทุกวันนี้คนจีนที่เดินทางเข้ามาส่วนใหญ่ยังเป็น FIT มากกว่า ส่วนตลาดที่เป็น “กรุ๊ปทัวร์” นั้นยังไม่นิ่ง และยังไม่มีความชัดเจนว่าตลาดจะออกมาเป็นรูปแบบไหน

ที่สำคัญ บริษัทนำเที่ยวขนาดใหญ่ในฝั่งจีนจำนวนมากก็ยังไม่เปิดเต็มที่ ที่เห็นราคาออกมาถูก ๆ ส่วนใหญ่สายการบินทำเอง หรือคนที่ทำชาร์เตอร์ไฟลต์ที่ซื้อที่นั่งสายการบินไว้แล้วขายไม่ออกเอามาปล่อยราคาถูก ซึ่งทำให้ตลาดเสีย

และยอมรับว่า ที่ผ่านมาบริษัททัวร์ไทยยังไม่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนมากนัก มีบริษัทนอมินีที่ส่งทัวร์เอง รับทัวร์เองเข้ามาเยอะ ซึ่งจุดนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาช่วยกันดูแลและหาทางป้องกัน เอกชนอย่างเดียวรับไม่ไหว

“ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่นิ่ง คงต้องรอประเมินความชัดเจนของตลาดอีกสัก 1-2 เดือน ส่วนตัวผมติดตามดูสถานการณ์อยู่เช่นกัน และก็เห็นว่าราคาออกมาไม่ค่อยดีนัก จึงอยากให้ทุกคนประเมินสถานการณ์ให้ดี ไม่ใช่มีลูกค้าก็รีบทำโดยไม่คำนวณต้นทุน”

“ศิษฎิวัชร” บอกด้วยว่า ส่วนตัวไม่รีบ เพราะเชื่อว่าตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวยังมีจำกัด โดยจะเลือกทำทัวร์ในมาตรฐานที่ทำได้เท่านั้น ถ้าไม่สมเหตุสมผลก็จะยังไม่ทำ โดยคาดว่ากว่าจะเริ่มคึกคักคงใช้เวลาอีกสักระยะ

และหวังว่า เมื่อสถานการณ์นิ่ง แพ็กเกจราคาถูกที่ออกมา เอเย่นต์ฝั่งไทยทำไม่ได้ จะทำให้เอเย่นต์ฝั่งจีนปรับตัว และทำให้ “ทัวร์ต่ำกว่าทุน” ไม่กลับมาสู่วังวนเดิม ๆ และหายไปในที่สุด