คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ
สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมการบินป็นอย่างมากสำหรับข่าวการหวนคืนสู่ธุรกิจการบินอีกครั้งของ “พาที สารสิน” ด้วยการลอนช์แบรนด์สายการบินใหม่ “เรียลลี คูล แอร์ไลน์” หรือ Really Cool Airlines เมื่อ 22 มีนาคม 2566 หลังจากยุติบทบาทตำแหน่ง CEO สายการบินนกแอร์ โลว์คอสต์แอร์ไลน์ในเครือการบินไทยไปตั้งแต่ปี 2560
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “พาที สารสิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งสายการบิน Really Cool Airlines ถึงมุมมองและปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจหวนคืนวงการธุรกิจสายการบินอีกครั้ง รวมถึงแผนธุรกิจของสายการบินน้องใหม่ ไว้ดังนี้
- อ.เจษฎา เฉลยแล้ว แมวตกตึกชั้น 6 รอดมาได้ เกิดจากสาเหตุอะไร
- เซ็นทรัลลดราคาครั้งใหญ่สูงสุด 80% ทั้งศูนย์-ห้าง-ออนไลน์ ยาว 2 เดือน
- กูรูตลาดทุน วิเคราะห์วิสัยทัศน์ตัวเต็ง รมว.คลัง “ไม่แย่ แต่ ไม่ใช่”
Hospitality Market โตสูง
“พาที” บอกว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่าตนจะลงทุนเปิดสายการบินใหม่ Really Cool Airlines พบว่ามีทั้งเสียงด่า เสียงชม เยอะมาก บางกระแสก็ยังคิดว่าตนยังบริหารสายการบินนกแอร์อยู่ ซึ่งกลุ่มผู้ร่วมทุนก็ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์หรือหวั่นไหวแต่อย่างใด
พร้อมย้ำถึงที่มาที่ไปในการหวนคืนสู่อุตสาหกรรมสายการบินอีกครั้งในปีนี้ว่า เหตุผลที่กลับมาทำธุรกิจสายการบินอีกครั้งด้วยการตั้งสายการบินใหม่ Really Cool Airlines นั้น ไม่ใช่เพราะอยากดัง แต่เนื่องจากวิเคราะห์แล้วว่า ตลาดฮอสพิทาลิตี้ (hospitality) ของประเทศไทยมีโอกาสและช่องว่างในการเติบโตที่สูงมาก
ที่สำคัญกว่านั้นคือ ที่ผ่านมาประเทศไทยเรายืมจมูกคนอื่นมาเติมตลาดจากต่างประเทศ ขณะที่สายการบินต่างชาติก็ไม่ได้เห็นไทยเป็น priority หลัก ยกตัวอย่าง เช่น ปัจจุบันเอมิเรตส์ กาตาร์ ตอนนี้บินมาแค่วันละ 5 ไฟลต์ลุฟท์ฮันซ่าบินวันละ 1 ไฟลต์ เป็นต้น จากเมื่อก่อนบินกันดับเบิลเท่าตัว
แน่นอนว่าในอนาคตอันไกลนั้นคงกลับไปเป็นแบบนั้นได้ แต่ในอนาคตอันใกล้ 2-4 ปีนี้ โอกาสที่จะเป็นแบบนี้ได้ยากมาก เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องบุคลากร สนามบิน และอีกหลายประเด็น
“ลองฮอล” หัวใจของอินบาวนด์
“พาที” ย้ำว่า ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เขาอยากมีส่วนที่จะเข้ามาช่วยในฐานะธุรกิจเอวิเอชั่น ถามว่ามี probability (พรอบาบิลิตี้) ความน่าจะเป็นไหม มีแน่นอนสำหรับตลาดลองฮอล ถ้าเป็นโดเมสติก โลว์คอสต์ หรือริจินอล ก็ต้องบอกว่าตลาดเหล่านี้ไม่มีแล้ว ยากมากที่จะดึงคนเข้ามาจำนวนมาก ๆ
และนี่ก็คือ เหตุผลที่ Really Cool Airlines โฟกัสตลาดลองฮอล (เดินทางระยะไกล) เพื่อดึงคนเข้ามา
“เรามองตลาดอินบาวนด์เป็นหลัก เพราะเป็นตลาดสำคัญมาก แอร์ไลน์ลองฮอลคืออินบาวนด์ ช่วยประเทศจริง ๆ เพราะเราต้องการคนเข้ามาและก็ต้องเลือกคนเข้ามาด้วยเหมือนกัน เราไม่ได้ต้องการแค่วอลุ่ม แต่ต้องการลูกค้ากลุ่มที่มีเงิน อันนี้คือเหตุผลที่เราต้องฉีกจากทุกคนและไม่ทำโลว์คอสต์”
ย้ำตัวเสริม-ไม่ใช่คู่แข่งบินไทย
“พาที” บอกด้วยว่า Really Cool Airlines ไม่ได้เกิดมาเพื่อแข่งกับ “การบินไทย” การบินไทยมีเครื่องบิน 30-40 ลำ แต่เบื้องต้นเขามีแค่ 4-5 ลำ จึงเป็นส่วนที่จะมาช่วยเสริม หรือ complement มากกว่า เพราะ Really Cool Airlines เป็นสายการบินใหม่ ไม่มีหนี้ ทำให้มีศักยภาพที่จะช่วยให้ประเทศไทยดีขึ้นไปอีก
และบอกด้วยว่า สถานการณ์ในตอนนี้ทุกคนจำเป็นต้องช่วยกัน เพราะกว่าตลาดจะกลับมาต้องใช้เวลา แม้กระทั่ง Really Cool Airlines เอง หลังจากเปิดตัวกว่าจะทำการบินได้ก็ประมาณเดือนธันวาคม 2566 เนื่องจากมีกระบวนการขั้นตอนอีกเยอะมาก
เช่น กรณี AOC ที่ซับมิตไปแล้ว ปัจจุบันทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก็พยายามที่จะทำให้เสร็จเร็วที่สุด ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าไม่นาน เพราะเป็นเพียงแค่ไลเซนส์
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ต้องดำเนินการตามมาตรฐานสากล (global standard) ตรงไปตรงมา เพื่อให้ compliance หรือเป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับและกฎหมายของอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น
เทงบฯคิกออฟ 200 ล้าน
ต่อคำถามเรื่องกลุ่มทุนและเงินลงทุนเบื้องต้น “พาที” ระบุว่า กลุ่มทุนส่วนใหญ่เป็นเวนเจอร์แคปิตอลลิสต์ (venture capital) หรือกลุ่มนักธุรกิจที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนส่วนตัวเป็นรายบุคคล หรือเพื่อน ๆ มารวมตัวกัน ส่วนที่เข้ามาเป็นบริษัทก็มีบ้างที่จะเข้ามาในอนาคต
“เหตุผลที่ไม่ได้เป็นบริษัทตั้งแต่ต้นเพราะจะทำให้กระบวนการทำงานช้า กว่าจะผ่านบอร์ดไม่จบสักที การลงทุนแบบส่วนตัวมันเร็วกว่า ทุกคนที่เข้ามาตรงนี้คืออยากเห็นธุรกิจเกิด โดยกลุ่มร่วมทุนบางคนก็มีเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้ด้วย”
ส่วนเงินลงทุนเบื้องต้นนั้นจะเข้ามาแบบสเต็ปบายสเต็ป โดยขณะนี้ยังมองแค่ในขั้นตอนของ AOC หรือขั้นตอนการคิกออฟประมาณ 200 ล้านบาท
“เราวางขั้นตอนการทำงานไว้หลายสเต็ป แต่ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ โดยถึงสิ้นปีหน้าเราจะมีเครื่องบินแอร์บัส A330 รวม 4 ลำ หลังจากนั้นจะขยับไปสู่เครื่อง A350 ในลำดับต่อไป ตอนนี้เราดีไซน์การตกแต่งเครื่องบินทั้งภายนอกภายในเครื่องบินไว้รอแล้ว”

ปิดจุดเสี่ยง-เสริมจุดแข็ง
สำหรับเส้นทางบินและเป้าหมายในช่วงปี 2 ปีแรกนั้น “พาที” บอกว่า ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมมาก ปิดประตูประเด็นที่เป็นจุดเสี่ยงไปหมดแล้ว ขณะที่ในส่วนของบุคลากรขณะนี้ในระดับบริหารเข้ามาเต็มที่แล้ว มีทั้งคนในวงการและนอกวงการธุรกิจการบิน เหลือเพียงแค่เปิดรับในส่วนของนักบิน แอร์โฮสเตส ซึ่งน่าจะราว ๆ กลางปีนี้
“เราผสมผสานระหว่างคนในวงการและนอกวงการการบินนี้จะเป็นจุดแข็งสำคัญอย่างหนึ่งของเราด้วย เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ในตลาด ที่สำคัญทุกคนที่เข้ามาทำงานจะมีแพสชั่นในสิ่งเดียวกัน”
ส่วนเส้นทางการบินนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะเปิดตัวด้วยเส้นทางบินไหน แต่ตลาดเป้าหมายคือ ตลาดที่คาดการณ์ว่ามีดีมานด์สูงในอนาคต เช่น ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ฯลฯ ไปจนถึงอเมริกา
“พาที” บอกอีกว่า ณ เวลานี้หลายเรื่อง หลายประเด็น ยังอยู่ใน process การทำงาน ยังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้าย แต่ที่ชัดเจนคือ แบรนด์ โพซิชันนิ่ง และคอนเซ็ปต์ ที่วางเป้าหมายเป็นสายการบิน lifestyle full service ที่ให้บริการเส้นทางบินลองฮอล มีความคุ้มค่า หรือ value for money มีความ sustainable สามารถอยู่ได้ในระยะยาว
Really Cool : It’s cool !
และที่โดดเด่นและชัดเจนคือ ใช้เทคโนโลยี innovative เข้ามาช่วยบริหารจัดการตั้งแต่ขั้นตอนบุ๊กกิ้งตั๋วโดยสาร กระทั่งส่งผู้โดยสารกลับถึงบ้าน ซึ่งจะเป็นเทรนด์ใหม่ในอนาคต
“เรามั่นใจว่าหลังจากเปิดให้บริการ Really Cool Airlines จะเป็นสายการบินที่คนทั่วโลกพูดถึง และ wow แน่นอน”
และอะไรที่ wow ฝรั่งจะพูดว่า It’s cool ! หรือ That’s cool ! เป็นคำชื่นชม ซึ่งจะตอกย้ำแบรนด์ Really Cool Airlines ได้เป็นอย่างดี