“ทีเส็บ” ชูวัฒนธรรมยกระดับเศรษฐกิจ ผนึกพันธมิตรบูม “เทศกาลไทย” สู่เวทีโลก

Yi Peng

“ทีเส็บ” จับมือ 4 สมาคมพันธมิตรผลักดันงานเทศกาลไทยไปสู่เวทีระดับโลก ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งใช้ต้นทุน “วัฒนธรรม” ยกระดับเศรษฐกิจไทย พร้อมปั้นงานเทศกาลสร้างโอกาสทางธุรกิจ ดึงกลุ่มผู้เข้าร่วมงานเทศกาลที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก หลังสนับสนุนการจัดงานเทศกาลกว่า 100 งาน สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้ประเทศกว่า 50,000 ล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ปี 2567 นี้ ทีเส็บมีนโยบายยกระดับงานเทศกาลในประเทศไทยให้เป็นกลไกสร้างประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานระดับโลก และเป็นเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมยกระดับเศรษฐกิจไทย

จิรุตถ์ อิศรางกูร
จิรุตถ์ อิศรางกูร

โดยใช้งานเทศกาลเป็นแพลตฟอร์มต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ เน้นความต่อเนื่องของการจัดงาน ตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้เข้าร่วมงานที่มีกำลังซื้อสูง มีเป้าหมายการเข้าร่วมงานที่เฉพาะเจาะจง และมองหาประสบการณ์สร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายที่โดดเด่นในการจัดงานเทศกาล จากเดิมที่ใช้งานเทศกาลเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศระยะสั้น

ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยใช้ 3 เสาหลักเพื่อสร้าง “ระบบนิเวศสร้างสรรค์” (Constructive Ecosystem) สำหรับการจัดงานเทศกาล ประกอบด้วย 1.การประมูลสิทธิการจัดงานระดับโลกและการดึงงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย อาทิ การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมาในปี 2572 ซึ่งประเทศไทยเพิ่งได้รับสิทธิการจัดงาน

งานแข่งรถ Formula E จังหวัดเชียงใหม่ และการดำเนินการเพื่อเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน WorldPride ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการปักหมุดประเทศไทยในเวทีเทศกาลโลก สร้างเครือข่ายของบุคลากรไทยในกลุ่มธุรกิจ Soft Sectors เป็นเวทีให้คนไทยได้มีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

2.Business Festival สนับสนุนงานเทศกาลเชิงธุรกิจ ให้เป็นมากกว่าการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน โดยสร้างแพลตฟอร์มและโอกาสทางธุรกิจผ่านเครือข่ายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ยกระดับบุคลากรและสร้างระบบนิเวศในอุตสาหกรรมไปพร้อม ๆ กัน

และ 3.Festival Academy เป็นการดำเนินการต่อเนื่องมา 3 ปีคือ สนับสนุนสมาคมพันธมิตรในการจัดกิจกรรมยกระดับสมาชิกของสมาคม อาทิ Festival Creative Lab การจัดให้เป็นเวทีรวมตัวกันของผู้จัดงานเทศกาลในประเทศ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ แรงบันดาลใจ และสร้างหรือแลกเปลี่ยนเครือข่ายระหว่างกัน ทั้งในและต่างประเทศ

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทั้ง 3 เสาหลักนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ทีเส็บให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับภูมิทัศน์และสร้างระบบนิเวศการจัดงานเทศกาลในประเทศไทยให้สอดรับกับแนวทางการจัดงานเทศกาลของโลก ควบคู่กันไปกับการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศผ่านการประมูลสิทธิ เพิ่มมิติทางธุรกิจในการจัดงาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อหาที่โดดเด่นของประเทศไทย และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้พร้อมแข่งขันต่อไปในเวทีโลก

การประกาศนโยบายขับเคลื่อนงานเทศกาลระดับโลกให้มีมิติโอกาสทางธุรกิจ เพื่อสร้างจุดขายให้กับประเทศไทยครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินงานก่อนหน้านี้ที่ทีเส็บได้ร่วมสร้างงานเทศกาลกับเมือง ชุมชน ผู้จัดงาน และ 4 สมาคมพันธมิตร ที่ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจมูลค่าสูงทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์และการสร้างสรรค์ ธุรกิจบันเทิง กีฬา

รวมถึงนวัตกรรม ได้แก่ สมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA), สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (TMPSA), สมาคมเครือข่ายผู้สร้างสรรค์วิชาชีพสื่อบันเทิงไทย (TECNA) และสมาคมการค้าส่งเสริมอุตสาหกรรมและศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (CAPT)

รวมทั้งเป็นผลมาจากการที่ทีเส็บได้สนับสนุนงานเทศกาลกว่า 100 งาน มีส่วนช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทย สร้างเงินหมุนเวียนให้ประเทศกว่า 50,000 ล้านบาท ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2567 ทีเส็บยังมีแผนสนับสนุนการจัดงานอีกกว่า 30 งาน ที่มุ่งดึงนักเดินทางไมซ์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงาน 2.3 ล้านคน สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,600 ล้านบาท และส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทยขยายตัวเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 5,800 ล้านบาท