วังอังกฤษเผยรายละเอียดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คิงชาร์ลส์ที่ 3

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
Ben Birchall / POOL / AFP

วังอังกฤษเผยรายละเอียดใหม่แผนการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ในวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2566 

วันที่ 22 มกราคม 2566 สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สำนักพระราชวังอังกฤษเปิดเผยรายละเอียดใหม่แผนการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2566 โดยจะประกอบด้วยพิธีกรรมทางศาสนา การเฉลิมฉลอง และขบวนแห่ ซึ่งจะสะท้อนถึงบทบาทของกษัตริย์ในปัจจุบัน และมองไปยังอนาคตข้างหน้า ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นประเพณีที่มีรากฐานมาอย่างยาวนาน 

ข้อมูลรายละเอียดที่เปิดเผยออกมาใหม่ สรุปได้ดังนี้

 

เสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2566

พิธีบรมราชาภิเษกจะเริ่มจากพิธีทางศาสนา ที่โบสถ์ “เวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์” ประกอบพิธีกรรมโดยอาร์คบิกชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี

คิงชาร์ลส์และราชินีคามิลลาจะเสด็จพระราชดำเนินในขบวนแห่ที่เรียกว่า “the King’s procession” (ขบวนแห่พระมหากษัตริย์) จากพระราชวังบักกิงแฮมมาที่เวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ และเมื่อเสร็จพิธีแล้วจะเสด็จกลับพระราชวังบักกิงแฮมในขบวนพิธีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “the coronation procession” (ขบวนแห่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก) ร่วมกับสมาชิกราชวงศ์ 

ปิดท้ายวันแรกที่พระราชวังบักกิงแฮม คิงชาร์ลส์และสมเด็จพระราชินีคามิลลาพร้อมสมาชิกราชวงศ์ จะเสด็จออกมาประทับที่ระเบียงด้านหน้าพระราชวังเพื่อทักทายประชาชน 

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าสมาชิกราชวงศ์พระองค์ใดบ้างที่จะปรากฏตัวในขบวนแห่และบนระเบียง

 

อาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566

ต่อมา ในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ จะมีผู้คนจำนวนมากได้รับเชิญเข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่เรียกว่า “coronation big lunch” ซึ่งดูแลและจัดเตรียมโดยทีมงานของโครงการเอเดน (Eden Project) ซึ่งพระราชินีคามิลลาทรงอุปถัมภ์มาตั้งแต่ปี 2556 (ค.ศ. 2013) 

ในช่วงค่ำจะมีพิธีเฉลิมฉลองที่สนามหญ้าของพระราชวังวินด์เซอร์ มีการแสดงคอนเสิร์ตโดยวงออเคสตร้า คณะนักร้องประสานเสียง และมีการเต้นรำ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ BBC 

ผู้ที่ได้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองจะมีบุคคลสำคัญ ศิลปินนักดนตรีและดาราดังระดับโลก อาสาสมัครจากองค์กรการกุศลที่คิงและราชินีอุปถัมภ์ และประชาชนหลายพันคนที่ได้รับบัตรฟรีให้เข้าร่วมงานจากการสุ่มแจกโดย BBC 

สำนักพระราชวังอังกฤษแถลงว่า ในการแสดงหลักของคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมีชื่อว่า “lighting up the nation” จะได้เห็นทั้งประเทศเข้าร่วมเฉลิมฉลอง เนื่องจากสถานที่สำคัญทั่วสหราชอาณาจักรจะถูกจุดไฟให้สว่างไสวขึ้นโดยใช้เครื่องฉายภาพ เลเซอร์ การแสดงโดรน และการประดับไฟ  

นอกจากนั้น สำนักพระราชวังคาดว่าจะมีอีเวนต์หลายพันอีเวนต์เกิดขึ้นตามท้องถนน สวน และสวนสาธารณะในทุกมุมของสหราชอาณาจักร  

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
HENRY NICHOLLS / POOL / AFP

จันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2566

ในวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นวันหยุดธนาคาร จะเป็นวันสำหรับกิจกรรมอาสาสมัครและเปิดรับบริจาคในนาม “The Big Help Out” จัดโดยองค์กร The Together Coalition และพันธมิตรมากมาย เช่น The Scouts, Royal Voluntary Service และกลุ่มอาสาสมัครจากทั่วสหราชอาณาจักร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของการเป็นอาสาสมัครที่มีต่อชุมชน

สำนักพระราชวังกล่าวว่า เพื่อเป็นการยกย่องการทรงงานเพื่อสาธารณะของพระมหากษัตริย์ โครงการ The Big Help Out จะกระตุ้นให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร และร่วมทำงานเพื่อสนับสนุนท้องถิ่นของตนเอง 

โดยเป้าหมายของกิจกรรมในวันนั้น คือ การใช้อาสาสมัครเป็นตัวเชื่อมชุมชนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และร่วมสร้างมรดก “อาสาสมัครที่ยั่งยืน” จากงานพระราชพิธีครั้งนี้ 

 

คาดงานใหญ่กว่างานพระบรมศพควีน

กระทรวงดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และกีฬา (Department for Digital, Culture, Media and Sport : DCMS) ของอังกฤษ กล่าวว่า คาดว่าจะมีประชาชนหลายหมื่นคนมาเยือนลอนดอน เพื่อสัมผัสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

มิเชลล์ โดนีแลน (Michelle Donelan) รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล วัฒนธรรมฯ กล่าวว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็น “ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ” พร้อมเสริมว่าช่วงสุดสัปดาห์ที่จัดงานนั้นจะดึงดูดผู้คนมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลอง “ส่วนผสมของประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัย ​​วัฒนธรรมและชุมชน ที่ทำให้ประเทศของเรายิ่งใหญ่”

ตามรายงานข่าวของ Bloomberg บอกว่า การเตรียมการสำหรับพิธีบรมราชาภิเษก จะมีความละเอียดอ่อนทางการทูต เช่นเดียวกับพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องจากน่าจะมีผู้นำจากหลาย ๆ ประเทศเข้าร่วมด้วย มีความเป็นไปได้ที่ขนาดของงานอาจใหญ่กว่างานศพของสมเด็จพระราชินีนาถเมื่อเดือนกันยายน 2565 เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าผู้นำจากต่างประเทศจะมีเวลาในการวางแผนการเดินทางมากขึ้น 

และงานนี้ยังอาจสร้างความยากลำบากให้กับราชวงศ์ หลังจากการเผยแพร่หนังสือของเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซ็ก ที่บันทึกถึงความแย้งของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งตอนนี้ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ว่า เจ้าชายแฮร์รี่กับพระชายา เมแกน จะเข้าร่วมพิธีหรือไม่ 

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทอม แบรดบี (Tom Bradby) ทาง ITV เจ้าชายแฮร์รี่ถูกถามว่าจะมาร่วมพระราชพิธีราชาภิเษกหรือไม่ หากได้รับเชิญ เขาตอบว่า “มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างนี้และหลังจากนี้”

นอกจากนั้น รัฐบาลได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาเปิดผับตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งนั่นหมายความว่าผับในอังกฤษและเวลส์อาจได้รับอนุญาตให้เปิดจนถึง 01.00 น. ในคืนวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ ที่ 5-7 พฤษภาคม 2566 

…………………