มูดี้ส์ (Moody’s) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของโลก เตือนว่าอาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากรัฐบาลสหรัฐต้องชัตดาวน์ หรือปิดการดำเนินงาน
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ในวันที่ 25 กันยายน 2023 ตามเวลาสหรัฐ มูดี้ส์ (Moody’s) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ที่สุดของโลกได้เตือนว่า การปิดการดำเนินงานหรือชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐ ที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้ “อาจส่งผลเสียต่อเครดิตของประเทศ”
คำเตือนอันเข้มงวดของมูดี้ส์เกิดขึ้นในเวลาเกือบสองเดือนหลังจากที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) บริษัทจัดอันดับเครดิตรายใหญ่ 1 ใน 3 ของโลกได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลง จากระดับ AAA ลงสู่ระดับ AA+ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลเรื่องฐานะการคลังที่คาดว่าจะถดถอยลง และวิกฤตเพดานหนี้ที่ชนเพดานและหาทางออกไม่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
วิลเลียม ฟอสเตอร์ (William Foster) นักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า การปิดการดำเนินงานที่อาจเกิดขึ้น อาจจะเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้เห็นว่าการแบ่งขั้วทางการเมืองในรัฐสภาสหรัฐทำให้การกำหนดนโยบายการคลังอ่อนแอลงอย่างไร ในช่วงเวลาที่ความกดดันต่อความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
“หากไม่มีการตอบสนองของนโยบายการคลังที่มีประสิทธิผล เพื่อพยายามชดเชยแรงกดดันเหล่านั้น … ก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มผลกระทบเชิงลบต่ออันดับเครดิต นั่นอาจนำไปสู่มุมมองเชิงลบ (negative outlook) และอาจถูกปรับลดอันดับได้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง หากแรงกดดันเหล่านั้นไม่ได้รับการแก้ไข” ฟอสเตอร์กล่าว
ทั้งนี้ ในบรรดาบริษัทจัดอันดับเครดิตระดับโลก 3 บริษัท เหลือเพียง มูดี้ส์ เจ้าเดียวที่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐในระดับสูงสุดที่ AAA ด้วยมุมมองที่มีเสถียรภาพ (stable outlook) ซึ่งมีความสำคัญต่อสหรัฐอย่างมาก
ส่วนเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) นั้น ปรับลดความน่าเชื่อถือของสหรัฐจาก AAA ลง AA+ แล้วตั้งแต่ปี 2011 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจาก AAA ลงสู่ระดับ AA+ ดังที่กล่าวไปแล้ว
“การกำหนดนโยบายการคลังในสหรัฐนั้นแข็งแกร่งน้อยกว่าในประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดอันดับ AAAA และการชัตดาวน์อีกครั้งจะเป็นหลักฐานเพิ่มเติมของความอ่อนแอนี้” มูดีส์กล่าวในแถลงการณ์