โรงกลั่นน้ำมันเกาหลีใต้ระเบิด หวั่นกระทบอุปทานในประเทศ

โรงกลั่นน้ำมันเกาหลีใต้ระเบิด
ภาพจากทวิตเตอร์ CyclistAnons

เหตุระเบิดและไฟไหม้ในโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ สร้างความกังวลต่ออุปทานน้ำมันในประเทศ 

วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ออยส์ไพรซ์รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน จากเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ ที่มีกำลังการกลั่น 580,000 บาร์เรลต่อวันในเกาหลีใต้ ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮับ

เหตุไฟไหม้และความเป็นไปได้ในการปิดโรงกลั่นขนาดใหญ่นี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อัตรากำไรจากการกลั่นทั่วโลกอยู่ในระดับสูง ขณะที่ความสามารถในการกลั่นทั่วโลกมีไม่เพียงพอ

ปัจจุบันกำลังการกลั่นทั่วโลกต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ หลังจากโรงกลั่นบางแห่งปิดถาวร หลังจากโควิดทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงลดลงในช่วงต้นปี 2563

นักผจญเพลิงได้รับรายงานการระเบิดที่โรงกลั่นของบริษัทเอส-ออยล์ คอร์ป (S-Oil Corp) ในศูนย์อุตสาหกรรมออนซานในเมืองอุลซัน ในช่วงก่อน 21.00 น. วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการแปรรูปน้ำมันดิบเป็นปิโตรเลียม

โรงกลั่นในออนซานแห่งนี้มีหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ 3 หน่วย ที่มีกำลังผลิตรวม 580,000 บาร์เรลต่อวัน ตามรายงานของอาร์กัส ซึ่งรายงานด้วยว่าการปิดโรงกลั่นโดยสมบูรณ์มีแนวโน้มเกิดขึ้น

นักผจญเพลิงในที่เกิดเหตุดูเหมือนจะมีปัญหาในการควบคุมเพลิง ตามรายงานสื่อท้องถิ่นที่อ้างข้อมูลจากโคเรียเฮรัลด์

ผู้บาดเจ็บ 8 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และกำลังรับการรักษาแผลไฟไหม้ระดับ 2 ที่ใบหน้าและฝ่ามือ

ทั่วโลกกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันถูกปิดตัวลงตั้งแต่ต้นปี 2563 ตามการประมาณการของ “วูด แมคเคนซีย์”

“สำหรับบริษัทที่มีโรงกลั่นน้ำมันที่ใช้งานมานาน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อต่ออายุ เป็นเรื่องยากที่จะปรับการใช้จ่ายเมื่อเผชิญกับแนวโน้มอุปสงค์ที่ลดลง โดยเฉพาะสำหรับน้ำมันเบนซิน อันเป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและการเพิ่มขึ้นของยานพาหนะไฟฟ้า” เอ็ด ครูคส์ ผู้เชี่ยวชาญจากวูดแมก เขียนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ครูคส์ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะเดียวกันกำลังการกลั่นใหม่ในตะวันออกกลางและเอเชียกำลังเข้าสู่ตลาด หลังจากเกิดความล่าช้า ส่วนหนึ่งจากการระบาดใหญ่และอัตรากำไรการกลั่นที่ลดลง