เปิดข้อจำกัด เงื่อนไข การส่งออกธัญพืชออกจากยูเครน

เปิดข้อจำกัด เงื่อนไข การส่งออกธัญพืชออกจากยูเครน
REUTERS/Edgar Su/File Photo

ตุรกีเผยว่า การเปิดเส้นทางทางทะเลเพื่อส่งออกธัญพืชของยูเครน ทางตุรกีต้องการหารือเพิ่มเติมกับรัสเซียและยูเครนต้องรับประกันว่าเรือจะปลอดภัย

วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ตุรกีเผยว่า การที่องค์การสหประชาชาติ (UN) วางแผนจะเปิดเส้นทางทางทะเลเพื่อส่งออกธัญพืชของยูเครน โดยให้ตุรกีเป็นผู้ดูแลนั้น เป็นเรื่องที่ “สมเหตุสมผล” แต่ตุรกีต้องการเจรจาเพิ่มเติมกับรัสเซียและยูเครนต้องรับประกันว่าเรือจะปลอดภัยตามรายงานของอัลจาซีราห์ 

การบุกยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้การส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำของยูเครนหยุดชะงัก และสร้างความเสี่ยงสู่วิกฤตอาหารโลก

UN ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายรวมถึงเพื่อนบ้านทางทะเล (maritime neighbour) และสมาชิกนาโต้อย่างตุรกีเห็นพ้องกันเรื่องการเปิดเส้นทางขนส่งทางทะเล

แต่มีอุปสรรคใหญ่ในการทำข้อตกลง ซึ่งรวมถึงการเกลี้ยกล่อมให้รัสเซียผ่อนคลายการปิดล้อมท่าเรือต่าง ๆ ของยูเครน และการโน้มน้าวให้ยูเครนเคลียร์ทุ่นระเบิดที่วางไว้ก่อนจะรับประกันกับบริษัทขนส่งและประกันภัยว่าเส้นทางดังกล่าวปลอดภัย

ขณะที่เวลากำลังจะหมดลง และพื้นที่จัดเก็บธัญพืชเริ่มเหลือน้อยลงสำหรับการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไปของยูเครน ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม

ทำไมการส่งออกธัญพืชของยูเครนจึงมีความสำคัญ ?

รัสเซียและยูเครนมีการส่งออกธัญพืชรวมกันเกือบ 1 ใน 3 ของอุปทานข้าวสาลีทั่วโลก ความสำคัญของการส่งออกธัญพืชจากทั้ง 2 ประเทศมีมากขึ้นอีกเมื่ออินเดียห้ามส่งออกข้าวสาลี ประกอบกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก

ขณะที่สงครามและการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก ยังทำให้ธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร ปุ๋ย และพลังงาน ราคาพุ่งสูงขึ้น

เหตุผลเหล่านี้สร้างความกังวลว่าจะนำไปสู่วิกฤตอาหารในประเทศยากจนต่าง ๆ ซึ่งบางประเทศต้องพึ่งพารัสเซียและยูเครนในการนำเข้าข้าวสาลีมากกว่าครึ่งหนึ่ง

ยูเครนยังเป็นผู้ส่งออกข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันเรปซีด ในขณะที่รัสเซียและเบลารุสซึ่งสนับสนุนรัสเซียในสงครามครั้งนี้ และถูกคว่ำบาตรเช่นเดียวกับรัสเซีย มีการส่งออกแร่โพแทชซึ่งเป็นธาตุอาหารของพืชทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40%

มีธัญพืชติดอยู่ในยูเครนเท่าไร ?

ธัญพืชเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของยูเครน ซึ่งการส่งออกมีมูลค่ารวม 12,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2564 และคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 การส่งออกของประเทศ

ก่อนเกิดสงครามยูเครนส่งออกธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมันผ่านทะเลดำ ในอัตราสูงสุด 6 ล้านตันต่อเดือน

“ทาราส วีซอตสกี้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงนโยบายและอาหารการเกษตรคนแรกของยูเครน กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า เมื่อท่าเรือต่าง ๆ ถูกปิดล้อม และระบบรถไฟไม่สามารถรับมือกับปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ยูเครนจะสามารถส่งออกธัญพืชได้ไม่เกิน 2 ล้านตันต่อเดือนเท่านั้น

ในเดือนพฤษภาคมยูเครนมีการส่งออกธัญพืช เมล็ดพืชน้ำมัน และน้ำมันพืช เพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยเพิ่มขึ้นเป็น 1.74 ล้านตัน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับในเดือนพฤษภาคม 2564 อย่างมีนัยสำคัญตามข้อมูลของทางการ

สหรัฐกล่าวหาว่ารัสเซียใช้อาหารเป็นอาวุธในยูเครน แต่รัสเซียกล่าวว่าชาติตะวันตกเป็นฝ่ายจุดชนวนให้เกิดวิกฤตนี้ด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย

ต้นเดือนพฤษภาคมมีธัญพืชประมาณ 22 ล้านตันติดค้างอยู่ในยูเครน อันเนื่องมาจากความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการปิดล้อมทางเดินเรือ

ขณะที่ราคาสินค้าต่าง ๆ พุ่งสูงขึ้น หน่วยงานต่าง ๆ ของ UN จำเป็นต้องลดการปันส่วนอาหารสำหรับผู้ลี้ภัยลงถึงครึ่งหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ในภูมิภาคซาเฮล เนื่องจากขาดแคลนเงินทุนจำนวนมาก

UN มีแผนนำธัญพืชออกมามากเพียงใด ?

“เมฟลุต คาวูโซกลู” รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี กล่าวถึงความสำเร็จจากการประชุมร่วมกับ “เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พร้อมระบุว่า จำเป็นต้องมีการเจรจาเพิ่มเติม

ลาฟรอฟกล่าวว่า การแก้ปัญหาการส่งออกธัญพืชขึ้นอยู่กับยูเครนที่ต้องเปิดท่าเรือต่าง ๆ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วรัสเซียจะรับประกันความปลอดภัยในการขนส่งด้วยความช่วยเหลือจากตุรกี

อย่างไรก็ตาม ยูเครนระบุว่า จำเป็นต้องมีการรับประกันความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะเริ่มการจัดส่งทางเรือ

“เซอร์ฮี อิวาชเชนโก” ผู้อำนวยการสหภาพผู้ค้าธัญพืชยูเครน (UGA) กล่าวเมื่อวันพุธว่าตุรกี ซึ่งมีกองทัพใหญ่เป็นอันดับ 2 ในนาโต้ และมีเรือจำนวนมาก ไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นผู้รับประกันเส้นทางที่ปลอดภัย

เขากล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือนในการกำจัดทุ่นระเบิดออกจากท่าเรือยูเครน กองทัพเรือตุรกี และโรมาเนียควรมีส่วนร่วมด้วย

มีอุปสรรคอื่นอีกหรือไม่ ?

แม้ว่าจะบรรลุข้อตกลง ค่าประกันสำหรับเรือทุกลำที่กล้าเดินทางผ่านทะเลดำก็มีแนวโน้มสูงมาก

สถานการณ์นี้มีความเร่งด่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากขาดแคลนพื้นที่จัดเก็บเมล็ดพืชในยูเครน ข้อมูลจากศูนย์วิจัย APK-Inform ระบุว่า พื้นที่จัดเก็บสูงสุด 35% ของความจุรวม 61 ล้านตันของยูเครน ยังคงสามารถนำมาใช้จนหมดได้ในปี 2565 เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวใหม่

ทำไมธัญพืชของยูเครนไม่สามารถส่งออกทางบกได้

ระบบรถไฟยูเครนมีช่องกว้างรางรถไฟที่แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป เช่น โปแลนด์ ดังนั้น เมล็ดพืชจึงต้องถูกนำไปส่งที่รถไฟขบวนต่าง ๆ ที่ชายแดน ซึ่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการขนถ่ายหรือการจัดเก็บจำนวนมาก

ยูเครนยังได้เพิ่มความพยายามในการขนส่งผ่านท่าเรือคอนสแตนตาของโรมาเนีย แต่ ณ กลางเดือนพฤษภาคมมีธัญพืชเพียง 240,000 ตัน หรือ 1% จากปริมาณที่ติดอยู่ในยูเครนเท่านั้นที่ผ่านออกไปได้

การเปลี่ยนเส้นทางส่งธัญพืชไปยังโรมาเนีย ยังเกี่ยวข้องกับการขนส่งโดยรถไฟไปยังท่าเรือแม่น้ำดานูบ และการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือบรรทุกเพื่อไปยังคอนสแตนตา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง