สุญญากาศกัญชา

ควัน กัญชา
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ถูกถอนออกจากสภาไป เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 ถูกมองว่าทำให้เกิดสุญญากาศทางกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ปลูกกัญชารายย่อยไม่รู้จะจัดการกับการลงทุนปลูกไปแล้วอย่างไรดี

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขมีความเห็นในตอนแรกว่า “เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะจะทำให้บางพรรคมีแต้มทางการเมืองสูง” แต่ต่อมายืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรกับพรรคร่วมรัฐบาลที่มีส่วนในการถอนร่างออกไปก่อน

มติการถอนร่างครั้งนี้ มีเหตุผลอธิบายจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า เพราะร่างกฎหมายเดิมมี 45 มาตรา เพิ่มเป็น 69 มาตรา และแก้เกือบทุกมาตรา จึงอาจไม่รอบคอบ

ส่วนพรรคเพื่อไทยเปรียบเทียบว่า ผลที่ได้จากการที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … เหมือนกับการสั่งตัดกางเกงขาสั้น แต่นำกางเกงขายาวมาส่งให้ จึงต้องส่งกลับ

โดยรวมแล้วทั้งสองพรรคที่เบรกร่างกฎหมาย ยืนยันไม่ได้มีเจตนาทางด้านการเมือง แต่เห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดหลังการปลดล็อก นำไปสู่การล้ำเส้นการใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เป็นการใช้สันทนาการอย่างแพร่หลาย

จึงต้องการให้คณะกรรมาธิการกลับไปปรับปรุงแก้ไข รวมถึงทบทวนว่า สถานะกัญชาจะกลับมาอยู่ในกฎหมายยาเสพติดหรือไม่

ระหว่างเกิดสุญญากาศทางกฎหมายกัญชาขณะนี้ จึงมีข้อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขใช้อำนาจออกประกาศ “ยกเลิกประกาศปลดล็อกยาเสพติด” เพื่อรอให้มีกฎหมายเข้ามาควบคุมก่อนแล้วค่อยปลดล็อกต่อไปได้

ขณะที่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ร่วมลงนาม 1,368 รายชื่อในแถลงการณ์เรียกร้องมากกว่านั้น คือขอให้ปิดกัญชาเสรีทันที ไม่ควรรอการประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา-กัญชงที่จะมีในอนาคต

กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ให้เหตุผลว่า ประกาศปลดล็อกกัญชา ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ไม่มีนโยบายและกฎหมายการใช้กัญชาอย่างครอบคลุมและปลอดภัย

ระหว่าง 3 เดือนมานี้ประเทศไทยมีเสรีกัญชามากที่สุดในโลก ทำให้เกิดปัญหาทางสังคมและสุขภาพ โดยเฉพาะกับเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง

เป้าหมายของนโยบายกัญชาเสรีคือให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงทางการแพทย์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่การออกประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากสารเสพติด กลับไม่ได้มีกฎหมายมารองรับ

ถูกตั้งคำถามย้ำอีกครั้งว่า ต้องการทำแต้มทางการเมืองเกินไปแต่แรกใช่หรือไม่