3 แบรนด์เสื้อผ้า 3 สไตล์ A|X Armani Exchange-CANITT-POEM อวดโฉมคอลเล็กชั่นใหม่ รับ Fall Winter 2022-2023 ที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ แต่ยังให้ความสำคัญกับแมทีเรียลไปพร้อม ๆ กัน
เข้าสู่ช่วง Fall Winter 2022-2023 บรรดาห้องเสื้อแบรนด์ดังต่างรังสรรค์คอลเล็กชั่นใหม่มาให้ทุกคนเลือกสวมใส่ โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละแบรนด์ ควบคู่ไปกับการใส่ใจเรื่องแมทีเรียล ทั้งเนื้อผ้าที่คุณภาพดี สวมใส่สบาย รวมถึงการใช้วัสดุรักษ์โลกในการผลิต เพื่อให้คุณผู้หญิงคุณผู้ชายสวยหล่อด้วยแฟชั่นที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
“YOU.ME.US.” จาก A|X Armani Exchange
เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล (CRC) เปิดตัวแบรนด์ “A|X Armani Exchange” เครื่องแต่งกายภายใต้คอนเซ็ปต์ “Italian Streetwear” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ และสามารถเข้าถึงได้ทุกคน สะท้อนความเท่าเทียมกัน ทั้งสำหรับคุณ สำหรับฉัน และสำหรับพวกเราทุกคน เพราะทุกคนล้วนคือคนสำคัญ พร้อมเสนอความคล่องแคล่วตามแบบฉบับ DNA ของ “Giorgio Armani” ดีไซเนอร์ระดับตำนานของโลก
พร้อมเปิดตัว “YOU.ME.US.” คอลเล็กชั่นใหม่รับ Fall Winter 2022-2023 โดดเด่นด้วยคู่สีขาวและดำ มีความเป็นมินิมอลสูง พร้อมแฝงลูกเล่นด้วยลวดลายการตกแต่งและการพิมพ์สโลแกนอักษรพิมพ์ใหญ่ ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้ประกอบไปด้วย
เสื้อคลุมขนสัตว์ เสื้อกันหนาวขนเป็ด บอมเบอร์แจ็กเก็ต เสื้อยีนส์ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ และกางเกงขายาว รวมถึงรองเท้า เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากหนัง ที่สำคัญ แบรนด์ A|X Armani Exchange เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อโลก เช่น การใช้ผ้าคอตตอนออร์แกนิก ผ้าไนลอนและวิสโคสที่สามารถรีไซเคิลได้
“เออบะไนท์” แฝงกลิ่นอายยุค 90s
แบรนด์เสื้อผ้าสตรีหรู “คานิท” (CANITT) อวดโฉมคอลเล็กชั่น “เออบะไนท์” (URBANITE) หยิบยกความโมเดิร์นจาก International Style มาเป็นแนวคิดหลักในงานออกแบบ ผสมผสานกลิ่นอาย 90s จากการเลือกใช้เฉดสีใหม่ ๆ ถ่ายทอดสู่เสื้อผ้าดีไซน์เรียบโก้ตามแบบฉบับสาวคนเมืองที่ต้องการความคล่องตัว
สำหรับไฮไลต์เด่นของคอลเล็กชั่น “เออบะไนท์” เป็นเทรนช์โค้ทและเบลเซอร์ ที่ทีมดีไซน์ออกแบบให้เหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทยในเฉดสีคลาสสิกอย่างโทนสีเบจที่มิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลากหลายสไตล์ อีกทั้งยังมีแจ็กเกตแบบครอปท็อปที่สามารถแมตช์กับเกงเกงขายาวเอวสูงได้อย่างลงตัว
รวมถึงชิ้นเบสิกที่นำมาสร้างสรรค์ใหม่ด้วยการใช้โทนสีที่มีความน่าสนใจมากขึ้น อาทิ การใช้ผ้าเนื้อแวววาวในเฉดสีที่เปรียบเสมือนดวงตาของเสือ, โทนสีระยิบระยับของพระจันทร์ และสีขาวสวยสง่าของดวงดาว เพื่อสร้างลุกโมเดิร์นสไตล์มินิมอลลิสม์ที่แฝงกลิ่นอายยุค 90s เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ
“เมจิเคิล ดูอาลิตี้”
“โพเอม” (POEM) มาพร้อมคอลเล็กชั่น “เมจิเคิล ดูอาลิตี้” (MAGICAL DUALITY) ซึ่งจะได้เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวในรูปแบบใหม่ที่มีการปรับโครงสร้างให้มีความเฟมินีนขึ้น ใส่จับคู่กับสูทเทเลอร์แบบเข้ารูป เพื่อขับเน้นรูปร่างของสาว ๆ ให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่ชัดเจน
อีกทั้งยังมีชุดสูทสามชิ้นไอเท็มคลาสสิกของผู้ชาย ที่ทีมดีไซน์ได้นำมาตีความใหม่โดยการนำโครงสร้างของคอร์เซ็ตมาใส่บนชิ้นเด่นอย่างเสื้อกั๊กด้านใน รวมไปถึงแจ็กเกตทรงบอยเฟรนด์ ที่นำมาปรับโครงสร้างและสัดส่วนให้เข้ากับส่วนสูงและรูปร่างของผู้หญิงเอเชีย โดยวิธีการตัดเย็บยังคงใช้งานฝีมือและแพตเทิร์นรูปแบบเดียวกันกับแจ็กเกตสูทของผู้ชาย
นอกจากงานดีไซน์แล้ว ทางแบรนด์ยังให้ความสำคัญกับแมทีเรียลอย่างผ้าอีกเช่นเคย โดยการนำผ้าพินสไตรป์มาใช้ในงานดีไซน์สำหรับเสื้อผ้าผู้หญิงเป็นครั้งแรก ซึ่งลวดลายและน้ำหนักของผ้าสามารถช่วยส่งเสริมงานดีไซน์ให้สง่างามและโก้หรูได้เป็นอย่างดี
รวมถึงการใช้ผ้าวูลและผ้าคอตตอน แท็บบิเน็ตในการสร้างสรรค์เชิ้ตเดรสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดเดรสที่ “ออเดรย์ เฮปเบิร์น” (Audrey Hepburn) ใส่ในภาพยนตร์ดังเรื่อง “Roman Holiday” และยังมีไอเท็มชิ้นเด่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชุดเดรสและกระโปรงฟูฟ่องจากผ้าทูล
รวมถึงกระโปรงหลากหลายรูปแบบที่ช่วยเผยเรียวขาอันเซ็กซี่แบบมีสไตล์ ซึ่งเสื้อผ้าสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ถูกนำเสนอผ่านโทนสีคลาสสิกอย่าง สีดำ, สีขาว, สีเทา, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาล และสีเบจ รวมถึงโทนสีสดใสอย่างสีแดง, สีเขียว, สีชมพู และสีฟ้า