บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก.พ. 2566 กรมบัญชีกลาง อัพเดตจ่ายอะไรบ้าง

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

กรมบัญชีกลางอัพเดตการจ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบเดือน ก.พ. 2566 วงเงินรวม 6,785 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้เบิกจ่ายและโอนเงินให้แก่หน่วยงานและร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน

ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไป

  • วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
  • ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 66)
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน, ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน และค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล)

ทุกวันที่ 18 ของเดือน

สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

  • เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
  • เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรเป็นผู้ชำระเอง)

ทุกวันที่ 22 ของเดือน

สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)

สำหรับเดือนมกราคม 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2566 วงเงินรวมทั้งสิ้น 6,785 ล้านบาท ดังนี้

สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งสิ้น 6,371.69 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รวม 6,130.01 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • การให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (200/300 บาทต่อคนต่อเดือน) 3,542.76 ล้านบาท
  • มาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฉพาะเดือนมกราคม 2566 (200 บาทต่อคนต่อเดือน) 2,587.25 ล้านบาท

2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 195.66 ล้านบาท

3.วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 23.01 ล้านบาท

4.วงเงินค่าโดยสารรถบริษัท ขนส่ง จำกัด  6.85 ล้านบาท

5.วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 16.16 ล้านบาท

สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์

สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) รวม 413.31 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 180.07 ล้านบาท

2.มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 17.64 ล้านบาท

3.มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 จำนวน 215.59 ล้านบาท

“สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังสามารถใช้บัตรต่อไปได้ตามปกติ จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศให้เริ่มใช้บัตรประชาชนแทน ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0-2109-2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 ในวันเวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว