ชัชชาติ เสียหลัก สภา กทม.ปัด หาทางแก้ปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ชัชชาติ รถไฟฟ้าสายสีเขียว

ชัชชาติ ย้ำส่งสายสีเขียวให้สภาช่วยพิจารณา ไม่ใช่ขอมติ แจงข้อกฎหมายละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลาพิจารณา 

วันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการประชุมกับสภากรุงเทพมหานคร ขณะนี้ทางสภายังไม่พิจารณาเรื่องรถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

ซึ่งมีญัตติขอให้ถอนข้อพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน เข้าใจว่ายังมีข้อมูลไม่ครบถ้วนและให้กรรมการวิสามัญเรื่องการจราจรเสนอรายงานให้ทางประธานสภากรุงเทพมหานครรับทราบเรื่องก่อน

ในที่ประชุมมีการหารือกับ ส.ก.หลายท่าน เรื่องการเก็บค่าโดยสารในอัตราราคาเท่าใด และเรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของกรุงเทพมหานครเป็นอำนาจของคณะกรรมการวิสามัญที่กำหนดจัดตั้ง ซึ่งตนต้องนำข้อมูลทั้งหมดจากการหารือไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ตนได้ชี้แจงกับทางสภาว่า เรื่องรถไฟฟ้า BTS เป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องสำคัญและคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องนำมาพูดคุยกัน

ทั้งนี้ การที่นำเรื่องดังกล่าวเข้าญัตติในที่ประชุม ไม่ได้ต้องการมติอะไร แต่เป็นการรับฟังความเห็น ซึ่งจากการหารือก็มีความคิดเห็นที่หลากหลาย

ในส่วนการตั้งราคาค่าโดยสารเป็นคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเป็นผู้พิจารณา และทางสภากรุงเทพฯ ก็มีคณะกรรมการวิสามัญจราจรดูเรื่องนี้อยู่ อย่างน้อยวันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่ได้เริ่มต้นพูดคุย

ชัชชาติย้ำไม่ได้ขอสภาอนุมัติค่าโดยสารส่วนต่อขยาย 15 บาท

เรื่องราคาค่าโดยสาร 15 บาทต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันนี้ก็ยังไม่ได้รับความเห็นจากการประชุมในสภา ต้องหารือว่าสุดท้ายสรุปอย่างไร เพื่อที่จะวางแผนได้รัดกุมและรอบคอบมากที่สุด ตนไม่ได้ขออนุมัติราคาค่าโดยสาร 15 บาท แต่เพียงจะแจ้งว่าค่าโดยสารนี้มีส่วนต่าง

ซึ่งเรื่องนี้ต้องคุยกับทีมงานอีกครั้งหนึ่ง ต้องยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวมีข้อมูลและรายละเอียดจำนวนมาก ขนาดที่ตนดูเรื่องนี้มาโดยเฉพาะยังมีจุดที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ฉะนั้นจึงต้องให้เวลาคณะกรรมการสามัญไปพิจารณาก่อน

“ในส่วนของความเห็นที่กระทรวงมหาดไทยได้เสนอมาก่อนหน้านี้ ตนในฐานะฝ่ายบริหาร ขอให้ความเห็นว่าควรปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนเพื่อให้การคำนวณค่าโดยสารมีความละเอียดขึ้น ทั้งนี้ พ.ร.บ.ร่วมทุนมีการคิดมาละเอียดแล้ว ในส่วนของค่าโดยสารก็ยังอยากให้รัฐบาลช่วยรับผิดชอบ ลดภาระตรงนี้ ของกรุงเทพมหานคร เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่จ่ายคือประชาชน ทำให้ค่าโดยสารราคาสูง”

การใช้รถไฟฟ้าก็มีประโยชน์ในทางอ้อม เช่น ลดเรื่องมลพิษ การจราจรติดขัด และรัฐเองก็ได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีความเจริญของเมืองที่ขยาย หลังจากนี้ในส่วนของสภากรุงเทพมหานครถ้ามีการจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาหรือคณะกรรมการสามัญ ตนก็รู้สึกยินดีที่จะมีหน่วยที่เดินคู่กันไปและหารือร่วมกัน เพราะสุดท้ายแล้วปัญหานี้หนีไม่พ้นที่จะต้องกลับมาที่ กทม.ค่าใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ ก็ต้องมาจาก กทม. ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ กทม.แต่จะอยู่ที่กฎหมาย มาตรา 44 ซึ่งในนั้นมีปลัด กทม. เพียง 1 คนที่เป็นกรรมการ อำนาจอยู่ในคณะรัฐมนตรีหมดแล้วความเห็นของ กทม.แทบไม่มีสิทธิมีเสียงเพราะไม่ใช่หน่วยงานหลัก

ไม่ปิดโอกาสโอนสายสีเขียวให้รัฐบาล

ส่วนประเด็นถ้าหากโครงการดังกล่าวมีปัญหามากจะต้องมีการคืนทั้งโครงการให้รัฐบาลดูแลต่อหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า มีสิทธิเป็นไปได้ ไม่ได้มีการปิดกั้น หลักคือต้องเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าเอาแนวคิดในอุดมคติที่ตนเคยคิด ถ้าทุกเครือข่ายมีเจ้าของคนเดียวก็จะสามารถบริหารจัดการได้ สายตรงไหนที่คนใช้เยอะก็เอาไปช่วยในส่วนของคนที่ใช้น้อยได้ ถ้าอย่างนั้นก็จะสามารถทำให้เฉลี่ยค่าโดยสารได้

ถ้าหากอนาคต กทม.จะคืนโครงการรถไฟฟ้าก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้ประโยชน์ค่าโดยสารต้องไม่แพงสามารถเฉลี่ยได้ เช่นเดียวกับที่อยากให้มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาและสายสีเงิน แต่คิดว่าหากให้รถไฟฟ้ามหาชนเป็นผู้ลงทุน จะดีกว่าเพราะผ่านเครือข่ายหลายเส้นที่มีการเชื่อมโยงกันไว้ ทำให้ค่าแรกเข้าไม่ต้องมีค่าโดยสารสามารถเจรจาได้สะดวกขึ้น

ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียวในระยะยาวควรจะเลี้ยงตัวเองได้ เพราะเป็นสายที่มีผู้โดยสารมากที่สุด แต่ประเด็นอยู่ที่ว่ารายได้ที่เข้ามา แต่ก็มีรายจ่ายค่าจ้างจำนวนมากทำให้เกิดภาระ เรื่องนี้จึงทำให้เกิดการต่อรองที่จะต้องสมเหตุสมผล ประเด็นต่าง ๆ ของรถไฟฟ้าสีเขียวยังมีอีกมาก

กทม. พร้อมจ่ายหนี้ หากทุกอย่างถูกต้อง

“ต้องบอกว่า กทม. ยินดีจะจ่ายหนี้ที่เป็นธรรมทุกบาททุกสตางค์ไม่มีเบี้ยวเพราะเป็นเรื่องของความไว้วางใจระหว่าง กทม.กับภาคเอกชน แต่ทั้งนี้หนี้ก็จะต้องมีที่มาที่ไปว่าทำถูกระเบียบมีขั้นตอนการอนุมัติหรือไม่ เพราะเงินเหล่านี้ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ กทม.” นายชัชชาติกล่าว

ส่วนที่หลายคนกังวลว่าสรุปแล้วปีนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเรียกเก็บค่าโดยสารหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องนี้คนที่กังวลน่าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ใช้บริการ เพราะคุณกำลังจ่ายเงินและไม่ได้นั่ง แต่ทั้งนี้ก็ไม่แน่ว่าปีนี้จะมีการเรียกเก็บค่าโดยสารหรือไม่ ต้องพิจารณาให้รอบคอบมีหลายประเด็นที่ต้องคิด

สภาล่ม ส่งผลวาระที่เหลือ โยนไปพิจารณา มกราคม 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการพักการประชุมสภากรุงเทพมหานคร เมื่อเจ้าหน้าที่สภา กทม.กดออดส่งสัญญาณเริ่มการประชุม กลับมี ส.ก.เข้าร่วมประชุม พียง 12 คนเท่านั้น ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม

นายอำนาจ ปานเผือก รองประธานสภา กทม.คนที่ 2 ทำหน้าที่แทนประธานสภา กทม. จึงสั่งปิดการประชุมในเวลา 13.27 น. ทำให้ระเบียบวาระที่ 7 ทั้งหมด ไม่ได้ถูกพิจารณา ซึ่งการประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 4 ครั้งที่ 4 ประจำปี 2565 ปิดไปเรียบร้อยแล้ว และคาดวาระที่เหลือ จะเข้าสู่การประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 5 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 ในเดือน ม.ค. 2566

“ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้มันมหากาพย์ อีกยาวกว่าจะจบ” นายชัชชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าวในตอนท้าย