อั้นไม่อยู่อีกราย “TikTok” ปลดพนักงานในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ราว 60 คน แจ็กพอตฝ่ายขาย-โฆษณา
วันที่ 24 มกราคม 2567 สำนักข่าวเอ็นพีอาร์ (NPR) รายงานว่า ยักษ์โซเชียลมีเดียสัญชาติจีน “TikTok” เตรียมปรับโครงสร้างองค์กร และเลิกจ้างพนักงานในลอสแองเจลิส นิวยอร์ก ออสติน และประเทศอื่น ๆ ราว 60 คน โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือฝ่ายขายและฝ่ายโฆษณา
รายงานข่าวระบุว่า แม้ TikTok จะสร้างความหวั่นใจเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ แต่ก็เป็นหนึ่งในแอปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐ มีผู้ใช้งานในประเทศมากกว่า 150 ล้านคน และมีพนักงานในประเทศประมาณ 7,000 คน ส่วน ByteDance ที่เป็นบริษัทแม่ของ TikTok มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน และมูลค่าบริษัท 2.25 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การปลดพนักงานของ TikTok เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยกูเกิล (Google) และแอมะซอน (Amazon) ได้ปลดพนักงานหลายพันชีวิตไปแล้วในปีนี้ เพื่อจัดลำดับความสำคัญการลงทุน และทุ่มสรรพกำลังไปที่การพัฒนา AI มากขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Layoffs.fyi เว็บไซต์ติดตามการงานด้านเทคโนโลยี ระบุว่า ในปี 2567 มีการเลิกจ้างพนักงานไปแล้วกว่า 10,000 ตำแหน่ง ส่วนในปี 2566 มีการเลิกจ้างตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีประมาณ 260,000 ตำแหน่ง ถือเป็นปีที่มีการเลิกจ้างมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีตัดสินใจปลดพนักงานจำนวนมากตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 เป็นเพราะต้องการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรมากขึ้น เพื่อเข้าสู่ “ปีแห่งประสิทธิภาพ” คำที่ “มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก” (Mark Zuckerberg) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมตา (Meta) เคยนิยามถึงวิธีการบริหารงานในปีที่ผ่านมา
อีกทั้งยังมีปัจจัยจากการมาถึงของ AI ที่เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น และเริ่มทดแทนตำแหน่งงานบางส่วน เช่น Duolingo แพลตฟอร์มสำหรับฝึกภาษาที่ตัดสินใจลดการจ้างพนักงานสัญญาจ้างจำนวน 10% เพื่อลดความคาบเกี่ยวของงานที่ทำโดยคนและ AI เป็นต้น