“เซ็นทรัล” เปิดฉากบุกค้าส่ง แข่งแม็คโครชิงเค้ก 3 แสนล้าน

เซ็นทรัล รีเทล

“เซ็นทรัล รีเทล” เริ่มแล้ว ! บุกธุรกิจค้าส่ง 3 แสนล้าน ประกาศรับสมัครพนักงานดึงมืออาชีพเสริมทีมเต็มอัตราศึก ตั้งแต่พนักงาน ยันผู้จัดการฝ่าย-ผู้จัดการแผนก ปักธงยึดทำเลทองศรีนครินทร์ เปิดโมเดลเจาะตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค-อาหารสด อาหารแช่แข็ง อาหารทะเล เบเกอรี่ จิ๊กซอว์ใหม่เขย่าบัลลังก์เจ้าตลาด

แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯไปแล้วตั้งแต่ 25 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา สำหรับการรุกคืบเข้าสู่ “ธุรกิจค้าส่ง” ของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี ยักษ์ธุรกิจค้าปลีกที่ได้ประกาศจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ ในชื่อของบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1 ล้านบาท โดยตลอดช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา คนในแวดวงธุรกิจและผู้บริโภคต่างติดตามข่าวการเปิดธุรกิจโมเดลใหม่ของซีอาร์ซี แต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมนัก

รีครูต พนง.-เตรียมตัดริบบิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท เซ็นทรัล รีเทลฯ ได้ประกาศรับสมัครผ่านเว็บไซต์การจัดหางานของกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลรีเทล www.centralretailcareers.com โดยระบุว่า “ธุรกิจใหม่ เปิดรับสมัคร สาขาเปิดใหม่ ธุรกิจใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัล” นอกจากนี้ยังระบุเพิ่้มเติมด้วยว่า รับสมัครงานสาขาเปิดใหม่-Srinakarin (ศรีนครินทร์)

โดยตำแหน่งที่รับสมัคร มีตั้งแต่ผู้จัดการฝ่าย-ผู้จัดการแผนก อาทิ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการสาขา แผนกบริหารงานขายและพัฒนาลูกค้า แผนกบริหารสินค้าและจัดส่งสินค้า แผนกบริหารความเสี่ยงและป้องกันการสูญเสีย (LP) แผนกอาหารสด (เนื้อสัตว์, ผักและผลไม้, อาหารแช่แข็ง, อาหารทะเล, เบเกอรี่), แผนกสินค้าอุปโภคบริโภค nonfresh รวมถึงบุคลากรในแผนกธุรกิจบัญชี แผนกบริหารฐานข้อมูลและระบบ (IT) แผนกรับสินค้า (GR) แผนกซ่อมบำรุง และแผนกบุคคล (HR)

รวมถึงเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งพนักงาน-พนักงานอาวุโส เพื่อประจำในแผนกต่าง ๆ อาทิ แผนกอาหารสด (เนื้อสัตว์, ผักและผลไม้, อาหารแช่แข็ง, อาหารทะเล, เบเกอรี่), แผนกสินค้า nonfresh แผนกจัดส่งสินค้า แผนกแคชเชียร์ แผนกเช็กเกอร์ แผนกบริการลูกค้า แผนกขายทางโทรศัพท์ และธุรการ (telesales&admin)

เขย่าตลาดค้าส่ง 3 แสนล้าน

แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกค้าส่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากการรีครูตพนักงานเพื่อรุกธุรกิจค้าส่งดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมา เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ยังได้ประกาศรีครูตพนักงานผ่านบริษัทจัดหางานด้วยอีกทางหนึ่ง แต่ล่าสุดได้หยุดการประกาศรับสมัครดังกล่าวไปแล้ว แต่ที่น่าสนใจก็คือ การดึงทีมงานของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจค้าส่งมานานมาร่วมงานจำนวนหนึ่งด้วย โดยเฉพาะพนักงานระดับหัวหน้าแผนก หัวหน้าฝ่าย และจากการประกาศรับสมัครพนักงานและระบุสถานที่ที่ชัดเจนดังกล่าว มีความเป็นไปได้สูงที่เซ็นทรัลจะเริ่มเปิดให้บริการธุรกิจค้าส่งในเร็ว ๆ นี้

คาดว่าระยะถัดไปเซ็นทรัลก็จะทยอยเปิดสาขาธุรกิจค้าส่งเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพราะอย่างที่รับรู้กันดีของคนในวงการว่า กลุ่มเซ็นทรัลนั้นมีแลนด์แบงก์อยู่ในหลาย ๆ ทำเล สะท้อนจากภาพการขยายสาขาธุรกิจในเครือเพิ่มอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า ธุรกิจค้าส่งเป็นจิ๊กซอว์ตัวใหม่ของซีอาร์ซี ที่จะมาเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอให้ครอบคลุมมากขึ้น จากเดิมที่ซีอาร์ซี มีธุรกิจค้าปลีกที่ครอบคลุมแทบทุกตลาดแล้ว ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้า-อุปกรณ์กีฬา ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา-อาหารเสริม ร้านจำหน่ายอาหารและสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ฯลฯ

“การรุกเข้ามาในธุรกิจค้าส่งของซีอาร์ซีดังกล่าวจะช่วยให้ตลาดมีความคึกคักมากขึ้น และตลาดนี้ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก จากปัจจุบันที่มีเพียง แม็คโคร ที่เป็นเจ้าตลาด นอกจากนี้ก็มีกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในต่างจังหวัด ซึ่งรวม ๆ แล้วคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่าปีละ 3 แสนล้านบาท แต่ละปีจะมีอัตราการเติบโต 3-5% และหากพิจารณาจากตำแหน่งที่เซ็นทรัลรับสมัครก็จะเห็นว่าตำแหน่งทางการตลาดก็จะคล้าย ๆ กับ แม็คโคร คือ เน้นการในเรื่องของอาหารสด และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก”

กางแผนเติมเต็มพอร์ต

รายงานข่าวจากบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโมเดลร้านค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อาทิ ไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมต ที่รวมสินค้าจากแบรนด์ไทวัสดุ และบีเอ็นบีโฮม เข้าด้วยกัน Tops Fine Food และ Tops CLUB เมมเบอร์ชิปสโตร์ที่รวมสินค้านำเข้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดังจากทั่วโลก

รวมทั้งขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม แล้วก้าวเข้าสู่ new business ด้วยการเพิ่มกลุ่มธุรกิจ health and wellness ตอบโจทย์สุขภาพของคนและสัตว์เลี้ยงผ่าน Top Vita ร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่เน้นวิตามินและอาหารเสริม, Tops Care ร้านจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และ Pet ‘N ME ร้านจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

รวมทั้งได้ขยายสาขา go!WOW ร้านสินค้าเบ็ดเตล็ด และ go!Power ร้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และในปี 2565 ที่ผ่านมา ได้เปิด go! ไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้งมอลล์ รูปแบบใหม่ 3 สาขา ที่นครศรีธรรมราช เป็นศูนย์การค้าสำหรับทุกคนในครอบครัวและตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย ซึ่ง ณ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทมีสาขา Tops Food Hall จำนวน 2 สาขา, Tops Fine Food 2 สาขา go!WOW จำนวน 28 สาขา, go!Power 12 สาขา, Tops Vita 29 สาขา, Tops Care 12 สาขา และ PET ‘N ME 3 สาขา


นอกจากนี้ยังได้มีการขยายสาขาและปรับปรุงพื้นที่อย่างต่อเนื่องในทั้ง 3 ประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจ โดยในไทย มีการเปิดสาขาใหม่ ได้แก่ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 3 สาขา ที่บ้านฉาง จังหวัดระยอง, ถลาง จังหวัดภูเก็ต และราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ ไทวัสดุ 6 สาขา ขณะที่ เวียดนาม เปิด GO! mall 1 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ และมินิโก! รวม 5 สาขา นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดร้านค้าเฉพาะทาง (specialty store) รวมทั้ง brandshop ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง