เปิด “วีซ่าฟรี” จีน-คาซัคสถาน เข้าไฮซีซั่น วันหยุดยาว ปัจจัยบวกท่องเที่ยวไทยไตรมาส 4 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกินครึ่งเชื่อรายได้เพิ่มขึ้นเทียบไตรมาสที่ผ่านมา สทท.ชงรัฐบาลเศรษฐาเปิด “วีซ่าฟรี” นักท่องเที่ยวอินเดีย บูสต์ต่างชาติเที่ยวไทย 30 ล้านคน
รศ.ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย ไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 69 ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการแสดงความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่แน่นอน ค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับสูง และหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับสูง
ขณะที่ไตรมาส 4/2566 ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์การท่องเที่ยวอยู่ที่ 75 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 จากปัจจัยการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวยุโรป-ทวีปอเมริกาเหนือ รวมถึงวันหยุดยาวในไตรมาสที่ 4 นี้ ของทั้งไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย
ทั้งนี้ 61% ผู้ประกอบการที่ตอบแบบสอบถาม คาดว่าไตรมาส 4 นี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ 19% มองว่ารายได้ไม่แตกต่างจากเดิม 2% เชื่อว่าจะมีรายได้ที่ลดลง และ 18% ให้ความเห็นว่าไม่ทราบ และหากจำแนกตามประเภทธุรกิจ พบว่าธุรกิจทัวร์จำนวน 80% มองว่าไตรมาส 4 นี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ตามด้วยร้านอาหารและที่พักแรม 69%
รศ.ผกากรองกล่าวว่า ผู้ประกอบการแสดงความกังวลว่าไตรมาสที่ 4/2566 สภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่แน่นอน และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ต้นทุน เช่น ค่าน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงกังวลต่อศักยภาพการบริหารงานของรัฐบาล โดยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการชี้ว่า ปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกยังถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการท่องเที่ยวไทย
โดยจีนยังเผชิญความท้าทายจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผิดนัดชำระหนี้ เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวในปีหน้า รัฐบาลจีนสนับสนุนให้คนจีนท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น นักเศรษฐศาสตร์จีนยังกังวลอีกว่าจีนจะเกิดภาวะเงินฝืดยาวนาน
ขณะที่ญี่ปุ่นยังเผชิญปัญหาเงินเยนอ่อนค่า โดยอาจทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบันจนถึงต้นปี 2567 ส่วนเยอรมนีประกาศผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวติดลบ 3 เดือนต่อเนื่อง และอิตาลี GDP ยังอยู่ในระดับทรงตัว ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ลดปริมาณการส่งออกน้ำมัน ประกอบกับผลกระทบของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาพลังงานมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงจนถึงสิ้นปี
รายงานดัชนีความเชื่อมั่นฯ ยังระบุต่อไปว่า หนี้ครัวเรือนของไทยที่อยู่ในระดับสูง ยังส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของประชาชน โดยประชาชนไทยใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวน้อยกว่าก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยในเดือนกรกฎาคม 2566 ประเทศไทยมีรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 62,280 ล้านบาท ลดลงจาก 92,731 ล้านบาท ที่ราว 32.84%
อย่างไรก็ดี สำหรับปัจจัยจากต่างประเทศที่สนับสนุนการท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 4/2566 คือไตรมาสดังกล่าวเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกาเหนือนิยมมาเที่ยวไทย จากสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า
ฟากฝั่งตลาดการท่องเที่ยวเอเชียเอง ไทยยังได้อานิสงส์จากเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ (29 กันยายน) และวันหยุดยาววันชาติจีน (1-7 ตุลาคม) ซึ่งเชื่อว่าชาวจีนจะออกเดินทางเป็นจำนวนมาก ต่อด้วยเทศกาลดีปาวลี (Deepavali) เทศกาลยิ่งใหญ่ของชาวฮินดู ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวจากอินเดียและมาเลเซียจะเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และสุดท้ายจบที่ช่วงปลายปีด้วยเทศกาลคริสต์มาสและช่วงปิดเทอมของมาเลเซีย
ส่วนปัจจัยสนับสนุนจากในประเทศคือ นโยบายยกเลิกการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) แก่นักท่องเที่ยวจากจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 ทำให้กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งสองชาติมากขึ้น นอกจากนี้ สายการบิน เช่น การบินไทย ได้เปิดเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีนและอินเดีย อีกทั้งไตรมาส 4/2566 ยังเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย จากสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลง
ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-1 ตุลาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยแล้วจำนวน 2,509,698 คน ขณะที่ผู้วิจัยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวประเมินว่า ไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเยือนที่ 2.33 ล้านคน
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สำหรับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) แบบชั่วคราว แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถานนั้น ส่งผลดีทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจีนกล้าทำตลาดมากขึ้น
“คอขวดการท่องเที่ยวก่อนหน้านี้คือ จำนวนที่นั่งบนเที่ยวบินระหว่างจีนและไทยยังมีน้อย การเปิดวีซ่าฟรีทำให้ทัวร์จีนกล้าเสี่ยง เช่น เหมาที่นั่งสายการบินมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี ตนอยากเสนอไปยังภาครัฐให้พิจารณากระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติมใน 3 ประเด็นคือ 1.มาตรการวีซ่าฟรีเพิ่มเติมแก่ประเทศอินเดีย เพื่อกระจายความเสี่ยงเชิงตลาด และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 นี้ให้ถึง 30 ล้านคน 2.ตั้งทีมตอบโต้ข่าวลบภาคการท่องเที่ยวไทย (tourist war room) โดยอาจนำบุคคลที่มีอทธิพลทางความคิด (KOL) ชาวจีนเข้ามาประชาสัมพันธ์ข่าวสารเชิงบวกของประเทศไทย สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนว่าเที่ยวเมืองไทยแล้วปลอดภัย และ 3.การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น เสนอให้ปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ