ใคร ๆ ก็เอาใจ ? เจ้าชายซัมซุง ได้รับการปล่อยตัวจากรัฐบาลเก่า พอรัฐบาลใหม่มาก็ให้อภัยโทษอีก
วันที่ 12 สิงหาคม 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานใหญ่ของวงการธุรกิจและการเมืองของเกาหลีใต้ กรณีนาย อี แจยอง ฉายา “เจ้าชายซัมซุง” ในฐานะทายาทธุรกิจยักษ์ใหญ่ ซัมซุง ได้รับอภัยโทษอย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในคดีคอร์รัปชั่น ท่ามกลางการถกเถียงของคนในสังคม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
เจ้าชายซัมซุง วัย 54 ปี ที่มีชื่ออังกฤษว่า เจย์ วาย ลี (Jay Y Lee) เป็นรองประธานบริษัทซัมซุง อิเลกทรอนิกส์ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และชิปรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับอภัยโทษอย่างเป็นทางการ จังหวะต่อเนื่อง 1 ปีหลังได้รับการปล่อยตัว
เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 (พ.ศ. 2564) นายอีได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในสมัยรัฐบาลมุน แจอิน ฝ่ายเสรีนิยม ด้วยเหตุผลว่าวิตกต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-19 กระทั่งเกาหลีใต้เปลี่ยนรัฐบาลมาเป็นฝ่ายอนุรักษนิยม ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล นายอีก็ได้รับการอภัยโทษอย่างเป็นทางการ
วิกฤตเศรษฐกิจบีบ
นายฮัน ดองฮุน รมว.ยุติธรรมเกาหลีใต้ กล่าวว่า การให้อภัยเหล่านักธุรกิจคนสำคัญมีเป้าหมาย เพื่อเอาชนะวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมทางธุรกิจ สอดคล้องกับที่ประธานาธิบดียุนกล่าวว่า การให้อภัยโทษดังกล่าวจะช่วยสร้าง “ห้องหายใจ” สำหรับการดิ้นรนในการครองชีพภายในประเทศ
ส่วนแถลงการณ์จากซัมซุง นายอี แจยอง เผยถึงความยินดีอย่างจริงใจที่ได้รับโอกาสให้เริ่มต้นใหม่
“ผมอยากขอโทษที่ทำให้หลายคนวิตกกังวล เนื่องจากความบกพร่องของผม ผมจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อทำตามความรับผิดชอบอย่างเต็มที่และทำภาระหน้าที่ในฐานะคนในภาคธุรกิจ” นายอีกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าชายซัมซุงยังมีคดีค้างอยู่อีกคดี ที่ถูกฟ้องร้องฐานปั่นราคาหุ้น และละเมิดการตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการเมื่อปี 2015 (พ.ศ. 2558)
พลิกผันจาก 6 ปีก่อน
บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ย้ำถึงการให้อภัยโทษครั้งนี้เพื่อเปิดทางให้ผู้นำบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ กลับมาเป็นหัวหอกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
แต่การตัดสินใจนี้เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลพลิกผันการบริหารประเทศ หลังจากเมื่อ 6 ปีก่อนเกิดกระแสต่อต้านกลุ่มทุนใหญ่ ปลุกการประท้วงในกรุงโซลข้ามปี ระหว่างปี 2559-2560 จนบีบให้ น.ส.พัก กึนฮเย ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ ถูกสภาขับออกจากตำแหน่งผู้นำ และถูกดำเนินคดีจนติดคุก โดยต้องโทษนานถึง 25 ปี จากความผิดใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ
ส่วนเจ้าชายซัมซุง ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี จากความผิดหลายกระทง รวมถึงยักยอกเงินกองทุนบริษัทไปซื้อม้าให้ลูกสาวของเพื่อนประธานาธิบดีหญิง มูลค่าถึง 8 แสนดอลลาร์ หรือราว 28 ล้านบาท
ตอนที่มุน แจอิน ผู้นำฝ่ายเสรีนิยมขึ้นเป็นประธานาธิบดี ได้กวาดล้างคดีวุ่นวายที่ภาคธุรกิจแทรกแซงการเมืองอย่างชัดเจน แต่การปล่อยตัวเจ้าชายซัมซุง ในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่ง ทำให้เกิดความขัดแย้งและความไม่พอใจในกลุ่มประชาชนฝ่ายหนึ่ง
กลุ่มทุนที่แตะต้องไม่ได้
กระทั่ง 8 เดือนผ่านมาเมื่อเกาหลีใต้มีรัฐบาลใหม่ ประธานาธิบดีคนใหม่ก็ให้อภัยโทษเจ้าชายซัมซุงอีก ยิ่งสะเทือนกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านการคอร์รัปชั่น และตอกย้ำว่า ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ทรงอิทธิพลเป็นพวกที่แตะต้องไม่ได้ และอยู่เหนือกฎหมาย
“นี่เป็นการถอยหลัง เกาหลีใต้ถอยกลับไปในช่วงก่อนเกิดการชุมนุมประท้วงใหญ่” พัก ซานกิน อาจารย์วิชาเศรษฐศาสตร์และอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล กล่าว
กลุ่มทุนตระกูลใหญ่ หรือแชโบล คุมเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ไว้อย่างเป็นอาณาจักร เฉพาะ 10 กลุ่มแรกครองผลผลิตมวลรวมในประเทศไว้ถึง 80% ในที่นี้รวมถึง ซัมซุง แอลจี ลอตเต้ และเอสเค
การอภัยโทษครั้งนี้ นอกจากเจ้าชายซัมซุงแล้ว ยังมีนายชิน ดองบิน ประธานลอตเต้ กรุ๊ป นายชาง แซจู ประธานดองกุก สตีล มิลล์ และนายคัง ดุกซู อดีตประธานกลุ่ม เอสทีเอ็กซ์ กรุ๊ป ที่ถูกดำเนินคดีเดียวกัน รวมอยู่ในรายชื่อบุคคล 1,700 ชื่อ ที่ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ให้อภัยโทษ วันจันทร์ที่ 15 ส.ค.นี้ ตรงกับวันชาติเกาหลี นับจากการปลดปล่อยอิสรภาพจากจักรวรรดิญี่ปุ่น ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
……..