รัสเซีย หามาตรการตอบโต้ชาติตะวันตกกำหนดเพดานราคาน้ำมันส่งออก

คลังน้ำมัน รัสเซีย
แฟ้มภาพ คลังน้ำมันดิบ Yuzhnaya Ozereevka ของบริษัท Caspian Pipeline Consortium (CPC) ใกล้กับท่าเรือทะเลดำของ Novorossiisk ประเทศรัสเซีย (Handout via REUTERS ATTENTION EDITORS)

รัสเซียหาแนวทางตอบโต้ชาติตะวันตก ที่กำหนดเพดานราคาน้ำมันส่งออกจากรัสเซีย ห้ามเกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงการไม่ขายน้ำมันให้ ขณะที่อียูถกเรื่องเพดานราคาก๊าซในกลุ่มยังไม่จบ 

วันที่ 19 ธันวาคม 2565 รอยเตอร์ อ้างอิงรายงานข่าวของสำนักงาน TASS ของรัสเซีย ที่ระบุว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า รัสเซียอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการตอบโตชาติตะวันตกที่กำหนดเพดานราคาน้ำมันส่งออกของรัสเซียว่าต้องไม่เกิน 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

โดยวางแผนจะเผยแพร่คำสั่งของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ทั้งเรื่องมาตรการตอบโต้ การห้ามขายน้ำมันแก่ประเทศที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประธานาธิบดีปูตินต่างวิจารณ์ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของชาติตะวันตกอย่างหนัก และประกาศจะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม วันนี้ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กลับเผยว่า รัสเซียอยู่ระหว่างการชั่งน้ำมันทางเลือกอื่น ๆ และดูว่า พื้นฐานต่างๆ รวมถึงข้อเสนอเพิ่มเติมที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและหารือ

“เรายังมีภารกิจในการหามาตรการที่เหมาะสมกับความสนใจของเรามากที่สุด ทุกอย่างยังดำเนินต่อไป แต่ก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว” เปสคอฟกล่าว

ทั้งนี้ เพดานราคาน้ำมันส่งออกรัสเซีย ถูกกำหนดโดยสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย โดยห้ามบริษัทต่าง ๆ ไม่ให้ประกันหรือขนส่งน้ำมันส่งออกทางทะเลของรัสเซีย ที่มีราคาสูงกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โดยก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนซื้อน้ำมันดิบและน้ำมันรัสเซียเกือบครึ่งหนึ่งของการส่งออกน้ำมันรัสเซีย ได้แยกออกคำสั่งคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียโดยระบุว่าจะลดการซื้อลง 90% ขณะที่ ข้อมูลของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า น้ำมันดิบผสมอูราลของรัสเซียมีการซื้อขายในราคาส่วนลดที่สูงมาก เมื่อเทียบกับน้ำมันดิบเบรนต์ นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน

แม้ว่าสหภาพยุโรปจะลดการนำเข้าน้ำมัน แต่น้ำมันยังคงเป็นสินค้าส่งออกหลักของรัสเซียและเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาล

คลังน้ำมัน รัสเซีย
แฟ้มภาพคลังน้ำมันดิบ Yuzhnaya Ozereevka ของบริษัท Caspian Pipeline Consortium (CPC) ใกล้ท่าเรือทะเลดำของ Novorossiisk ประเทศรัสเซีย (ภาพ Handout via REUTERS ATTENTION EDITORS)

รายงานข่าวจาก รอยเตอร์ อีกชิ้นระบุว่า การประชุมรัฐมนตรีพลังงานของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันนี้ (19 ธ.ค.) กำลังอยู่ระหว่างการพยายามหาข้อตกลงเรื่องเพดานราคาก๊าซ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีมาตรการฉุกเฉิน เพื่อพยายามควบคุมวิกฤตพลังงาน และสร้างความเห็นที่แตกแยกภายในกลุ่มมาแล้วก็ตาม

แม้จะมีการประชุมฉุกเฉินในเรื่องนโยบายเพดานราคาก๊าซมาถึง 2 ครั้งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังหาข้อสรุปกันยังไม่ได้ ขณะที่ในร่างข้อเสนอที่ได้สื่อมวลชนเห็น จะมีการเปิดใช้เพดานราคา หากราคาในสัญญาเดือนหน้าของฮับก๊าซ Dutch Title Transfer Facility (TTF) เกิน 180 ยูโรต่อเมกะวัตต์เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งต่ำกว่า 275 ยูโรยูโรต่อเมกะวัตต์ ตามข้อเสนอเดิมของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อเดือนที่แล้ว

ซึ่งมีประมาณ 10 ประเทศ เช่น เบลเยียม โปแลนด์ และกรีซ เรียกร้องเพดานต่ำกว่า 200 ยูโรต่อเมกะวัตต์ เพื่อจัดการกับราคาก๊าซที่สูงเกินจริง ซึ่งส่งผลให้ค่าพลังงานของประชาชนพุ่งสูงขึ้น และทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ หลังจากที่รัสเซียงดส่งก๊าซส่วนใหญ่มายังยุโรป

ทินเน ฟาน เดอ สแตรเทน รัฐมนตรีพลังงานเบลเยียม กล่าวว่า นี่คืออนาคตด้านพลังงานของเรา มันเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน มันเกี่ยวกับวิธีที่เรามีราคาที่จับต้องได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการยกเลิกอุตสาหกรรม

แต่เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และออสเตรียกลัวว่าเพดานราคาดังกล่าวอาจขัดขวางตลาดพลังงานของยุโรปและหันเหสินค้าก๊าซที่จำเป็นมากออกจากสหภาพยุโรป พวกเขาแสวงหาเงื่อนไขที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การปิดท่อโดยอัตโนมัติ หากเกิดผลกระทบด้านลบโดยไม่ได้ตั้งใจ

โรเบิร์ต ฮาเบค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า ไม่มีใครในเยอรมนีต่อต้านราคาน้ำมันที่ต่ำ แต่เรารู้ว่าเราต้องระวังให้มากที่จะไม่หวังดีแต่กระทำชั่ว

นักการทูตอาวุโสของอียู 2 คนกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศที่สนับสนุนดูเหมือนจะได้รับการสนับสนุนมากพอที่จะอนุมัติมาตรการนี้ โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจและตลาดก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป

ภายใต้ข้อเสนอล่าสุด เพดานราคาก๊าซของสหภาพยุโรปจะป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายในสัญญา TTF ของเดือนหน้าถึงปี 2566 ที่ราคามากกว่า 35 ยูโรต่อเมกะวัตต์ ซึ่งเหนือระดับอ้างอิงซึ่งประกอบด้วยการประเมินราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)

ข้อเสนอฉบับร่างก่อนหน้านี้ระบุว่าราคาสูงสุดของสหภาพยุโรปจะไม่ลดลงต่ำกว่าระดับทริกเกอร์ แม้ว่าราคา LNG จะตกลงไปถึงระดับที่ต่ำกว่ามากก็ตาม หากราคาอ้างอิง LNG เพิ่มขึ้นในระดับที่สูงขึ้น มูลค่าสูงสุดของสหภาพยุโรปก็จะขยับตามไปด้วย

หรือเหลือ 35 ยูโรต่อเมกะวัตต์ ตามฉบับร่างนั้น ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าอียูสามารถเสนอราคาสูงกว่าราคาตลาด เพื่อดึงดูดผู้ที่ขาดแคลน เชื้อเพลิง

อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของนโยบายด้านพลังงานอื่น ๆ ของสหภาพยุโรปผูกติดอยู่กับขีดจำกัด ประเทศต่าง ๆ ชะลอการอนุมัติใบอนุญาตพลังงานหมุนเวียนเร็วขึ้นถึง 2 ครั้ง เพื่อรอข้อตกลงเกี่ยวกับเพดานราคานี้