IMF คาดเศรษฐกิจโลกปี 66 โต 2.9% ยังไม่ถดถอยแต่มีแนวโน้มชะลอตัว

IMF คาดการณ์เศรษฐกิจโลก
เมืองบิลเบา ประเทศสเปน, 30 มกราคม 2023/ REUTERS/ Vincent West

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฉบับใหม่ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2566 จะโต 2.9% ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่คาดว่าจะโต 2.7% นอกจากนั้น IMF คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงจาก 8.8% ในปี 2565 เป็น 6.6% ในปี 2566

วันที่ 30 มกราคม 2566 ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเช้าวันที่ 31 มกราคม 2566 ตามเวลาไทย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก “World Economic Outlook” ฉบับใหม่ 

รายงานใหม่ของ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2566 จะเติบโต 2.9% ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2566 จะโต 2.7% แต่ยังคงต่ำกว่าการเติบโตในทศวรรษก่อนเกิดโควิด-19 (พ.ศ. 2543-2562) ที่โตเฉลี่ย 3.8% ส่วนปี 2567 IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 3.1%   

สำหรับคาดการณ์การเติบโตของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ๆ สหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเติบโต 1.4% เยอรมนี คาดว่าจะโต 0.1% ญี่ปุ่น คาดว่าจะโต 1.8% สหราชอาณาจักร คาดว่าจะติดลบ 0.6% จีน คาดว่าจะโต 5.6% อินเดีย คาดว่าจะโต 6.1% 

IMF คาดการณ์เศรษฐกิจโลก


ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส (Pierre-Olivier Gourinchas) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะชอลอตัวในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวในปีหน้า แต่การเติบโตจะยังเป็นไปอย่างอ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากการต่อสู้กับสงครามเงินเฟ้อและผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างรัสเซียกับยูเครนส่งผลกระทบต่อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 

ตัวแทน IMF ยังย้ำเรื่องการแตกแยกกระจายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ geoeconomic fragmentation ที่กำลังเพิ่มขึ้น และเน้นย้ำว่าประชาคมโลกต้องร่วมมือกันแบบพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้าระหว่างประเทศ การขยายเครือข่ายความมั่นคงทางการเงินระดับโลก การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ   

“รอบนี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในภาพรวมไม่ได้แย่ลง นั่นเป็นข่าวดี แต่ยังไม่เพียงพอ หนทางกลับสู่การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ด้วยการเติบโตอย่างยั่งยืน ราคาสินค้าที่มีเสถียรภาพ และความก้าวหน้าสำหรับทุกคน เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น”

IMF บอกว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ และสงครามของรัสเซียในยูเครน ยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของโควิด-19 ในประเทศจีน ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจลดลงในปี 2565 แต่การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ได้ปูทางไปสู่การฟื้นตัวที่เร็วกว่าที่คาดไว้   

นอกจากนั้น IMF คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงจาก 8.8% ในปี 2565 เป็น 6.6% ในปี 2566 และ 4.3% ในปี 2567 ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 (ปี 2560–2562) ที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3.5%

………………….