ดัชนี PMI จีน กุมภาพันธ์ 2566 สูงสุดในรอบเกือบ 11 ปี แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นดี

PMI จีน กุมภาพันธ์ 2566
AFP/ China OUT

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ตัวเลขออกมาสูงสุดในรอบเกือบ 11 ปี ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการและการก่อสร้าง สูงถึง 56.3 ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนมีโน้มฟื้นตัวดีและเร็วกว่าที่คาด

วันที่ 1 มีนาคม 2566 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Manager Index : PMI) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตัวเลขออกมาดีที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ  

Bloomberg รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 52.6 เพิ่มขึ้นจาก 50.1 ในเดือนมกราคม ซึ่งสูงกว่าค่ามัธยฐาน (median) ที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบแบบสำรวจของ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 50.6 

ค่าดัชนี PMI ที่สูงกว่า 50 แสดงถึงการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ 52.6 นี้เป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 11 ปี นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 โดยได้รับแรงหนุนนสำคัญจากการที่โรงงานเปิดทำการผลิตอีกครั้งหลังวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ซึ่งช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการค้าปลีกและบริการเป็นหลักในช่วงที่ผ่านมา 

ส่วนดัชนี PMI ที่ไม่นับภาคการผลิต ซึ่งวัดกิจกรรมทั้งในภาคบริการและการก่อสร้าง เพิ่มขึ้นเป็น 56.3 จาก 54.4 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 54.9 

นอกจากนั้น ตัวเลขอื่น ๆ ล้วนดีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

ผลผลิตภาคการผลิตปรับตัวดีขึ้นเป็น 56.7 จาก 49.8 ในเดือนมกราคม

คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 54.1 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 และดัชนีย่อยคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศสูง 52.4 ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554

ดัชนีเวลาขนส่งวัตถุดิบ หรืออัตราความสามารถในการจัดส่งสินค้าของซัพพลายเออร์อยู่ที่ 52 ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 

มาตรวัดการจ้างงานภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 50.2 เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี และดัชนีย่อยด้านการจ้างงานนอกภาคการผลิตอยู่ในระดับดีที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 

ข้อมูลในเดือนกุมภาพันธ์ฉายภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง เนื่องจากผู้คนจำนวนมากกลับไปทำงานหลังจากช่วงวันหยุดยาว และเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สงบลง การประกาศของรัฐบาลที่ว่าโควิด-19 สิ้นสุดลงแล้ว ได้กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากการควบคุมการเดินทางและข้อจำกัดต่าง ๆ ถูกยกเลิกไป 

เจา ชิงเหอ (Zhao Qinghe) นักสถิติอาวุโส สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นผลจากการเร่งตัวขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการผลิตที่กลับมาดำเนินการอีกครั้ง เนื่องจากผลกระทบจากคลื่นการระบาดของโควิด-19 บรรเทาลง และมาตรการรักษาเสภียรภาพการเติบโตของเศรษฐกิจก็เริ่มมีผลบังคับใช้

ดัชนี CSI 300 ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังจากทางการเปิดเผยตัวเลข PMI ซึ่งช่วยลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ออกไป และให้ผลตอบแทนดีกว่าดัชนีตลาดหุ้นอื่น ๆ ในเอเชีย ส่วนค่าเงินหยวนในตลาดต่างประเทศปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 0.2% ส่วนในประเทศอยู่ในระดับทรงตัว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 2.91% 

ตัวเลขกิจกรรมในฝั่งผู้บริโภคก็แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการฟื้นตัวเช่นกัน เห็นได้จากความแออัดของถนนในเมืองใหญ่ที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้โดยสารรถไฟใต้ดินกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด และการใช้จ่ายในร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น  

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวเป็นไปอย่างไม่สม่ำเสมอ ขณะที่ภาคบริการมีกิจกรรมการบริการเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมกราคม แต่การใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าราคาสูง เช่น บ้านและรถยนต์ยังคงอ่อนแอ ผลผลิตของโรงงานก็ชะลอตัวเช่นกัน เนื่องจากวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน การส่งออกที่ชะลอตัว และอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างช้ามาก ๆ และคงที่นาน (muted recovery) ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิต 

ผู้นำระดับสูงของจีนให้คำมั่นว่าจะให้ความสำคัญกับการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ โดยให้ความสำคัญกับอุปสงค์ในประเทศเป็นส่วนที่มีบทบาทในการผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วน People’s Bank of China ธนาคารกลางของจีนบอกในรายงานทางการเงินฉบับล่าสุดว่า จะให้การสนับสนุนอย่างยั่งยืนต่อ real sector และจะงดใช้มาตรการกระตุ้นแบบ “น้ำท่วม” (flood-style) 

ทั้งนี้ จะมีข้อมูลหรือเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิมพ์เขียวเศรษฐกิจของจีนในวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมนี้ เมื่อผู้กำหนดนโยบายของประเทศมารวมตัวกันในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress) ซึ่งในงานนี้นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง (Li Keqiang) จะจัดทำรายงานผลงานรัฐบาลชุดล่าสุด ซึ่งจะมีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายหลักทางเศรษฐกิจของปี 2566 นี้