เวียดนามแผ่ว จีดีพี Q1/2566 โตต่ำสุดใน 6 ไตรมาสล่าสุด ผลจากส่งออกลด

เศรษฐกิจเวียดนาม
กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม / Manan VATSYAYANA / AFP

จีดีพีเวียดนามไตรมาส 1 ปี 2566 โต 3.32% เป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงกว่าไตรมาสก่อนหน้า และโตต่ำสุดใน 6 ไตรมาสหลังสุด เป็นผลจากการส่งออกลดลง 

วันที่ 29 มีนาคม 2566 สำนักงานสถิติแห่งชาติ (General Statistics Office) ของเวียดนามเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2566 ว่าจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2566 โต 3.32% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)

การเติบโตดังกล่าวเป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า ที่เติบโต 5.92% โตต่ำสุดใน 6 ไตรมาสหลังสุด และโตต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามโตชะลอลง คือนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าลดลง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนามที่พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศ

การส่งออกของเวียดนามในช่วง 6 เดือนล่าสุด หดตัวลงไปแล้ว 4 เดือน การส่งออกในเดือนมีนาคม 2566 ลดลง 14.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ดึงให้การส่งออกในไตรมาสแรกปี 2566 ลดลง 11.9%  

แนวโน้มการส่งออกที่หดตัวเกิดขึ้นกับเหล่ามหาอำนาจด้านการส่งออกในเอเชีย ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้และไต้หวัน ที่มีตัวเลขการส่งออกที่อ่อนแอเช่นกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของจีนยังไม่ได้กระตุ้นให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นมากนัก 

เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์ของเวียดนามแถลงว่า เวียดนามตั้งเป้าที่จะให้การส่งออกปี 2566 เติบโตประมาณ 6% โดยเป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงกว่าปีที่แล้วที่เติบโต 10.5% 

ทั้งนี้ เพื่อจำกัดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ธนาคารกลางของเวียดนามได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนนี้ เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของธนาคาร เพื่อส่งผ่านให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เป็นต้นทุนของภาคธุรกิจลดลง

จิ่ง เหงวียน (Trinh Nguyen) นักเศรษฐศาสตร์ชาวเวียดนามของบริษัทวาณิชธนกิจ Natixis SA ในฮ่องกงมองว่า จีดีพีของเวียดนามกำลังตกต่ำ เนื่องจากการตกต่ำของวัฏจักรการค้าโลก และการส่งออกของเวียดนามซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 100% ของการเติบโตจีดีพีได้ฉุดรั้งภาคการผลิต นอกจากนั้น เวียดนามยังมีจุดอ่อนในภาคการก่อสร้าง ซึ่งเป็นผลพวงจากความเข้มงวดในด้านอสังหาริมทรัพย์  


“ยิ่งไปกว่านั้น การขาดความชัดเจนในทิศทางนโยบาย ยังส่งผลต่อการลงทุนในประเทศอีกด้วย”