เปิดข้อตกลง สี จิ้นผิง-โจ ไบเดน หลังประชุมซ่อมแซมความสัมพันธ์ 4 ชั่วโมง

สี จิ้นผิง พบโจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023
สี จิ้นผิง พบโจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023 (ภาพโดย Kevin Lamarque/ REUTERS)

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ประชุมร่วมกัน 4 ชั่วโมงเพื่อหารือซ่อมแซมความสัมพันธ์ มีข้อตกลงหลายเรื่องตามคาด

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2023 ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าเวลาไทย 15 ชั่วโมง โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน ประชุมทวิภาคีนอกรอบการประชุมเอเปค 2023 ณ บ้านฟิโอลี (Filoli) ในเมืองวูดไซด์ ห่างจากซานฟรานซิสโกไปทางทิศใต้ประมาณ 25 ไมล์ การประชุมกินเวลานานถึง 4 ชั่วโมง 

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ในการประชุมสุดยอดที่มีเดิมพันสูง ซึ่งทั้งสองฝ่ายพยายามซ่อมแซมความสัมพันธ์ทวิภาคีภายใต้ความตึงเครียดที่รุนแรง ประธานาธิบดีของสหรัฐกับจีนตกลงกันในเรื่องความร่วมมือในการพยายามยับยั้งการส่งยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐ, เรื่องการฟื้นฟูการสื่อสารทางทหารระดับสูง และจัดการเจรจาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)

สี จิ้นผิง พบ โจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023 (ภาพโดย Kevin Lamarque/REUTERS)


ข้อตกลงจากประเทศจีนในการให้ความร่วมมือการต่อสู้กับยาเฟนทานิลได้รับการยกย่องจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐว่าเป็นข้อตกลงที่สำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไบเดนบอกกับสี จิ้นผิง ว่าเฟนทานิลเป็นหนึ่งในปัญหายาเสพติดที่เลวร้ายที่สุดที่สหรัฐเคยเผชิญ 

ไบเดนกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวช่วยลดการหลั่งไหลของสารเคมีตั้งต้นยาเสพติดจากประเทศจีนไปยังซีกโลกตะวันตกได้อย่างมาก 

“มันจะช่วยชีวิตผู้คนได้ และผมขอขอบคุณความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีสีในประเด็นนี้” ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าว 

และเจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า พวกเขาจะจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าจีนปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาหรือไม่

สี จิ้นผิง พบโจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023
สี จิ้นผิง พบ โจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023 (ภาพโดย Kevin Lamarque/ REUTERS)


นอกจากนั้น การประชุมยังมีการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทางสหรัฐซึ่งไม่เปิดเผยชื่อให้ข้อมูลกับบลูมเบิร์กว่า สี จิ้นผิง ระบุว่าเขายังไม่ได้เตรียมแผนการบุกโจมตีไต้หวันครั้งใหญ่ ฝั่งไบเดนตอบว่าสหรัฐรับรองสถานะที่เป็นอยู่ของจีนกับไต้หวัน และขอให้ชาวจีนเคารพกระบวนการเลือกตั้งในการลงคะแนนเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของไต้หวันที่กำลังจะเกิดขึ้น และไบเดนยังกล่าวอีกว่า จีนควรทบทวนการซ้อมรบแบบเร่งรัดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกใหม่  

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐยังกดดันให้จีนหารือเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และอิหร่านซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มฮามาส ซึ่งสหรัฐและสหภาพยุโรปจัดประเภทเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ด้วย 

“ผมเชื่อว่านี่เป็นการหารือที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิผลมากที่สุดเท่าที่เราเคยมี … เรามีความก้าวหน้าที่สำคัญบางอย่าง ผมเชื่อว่าอย่างนั้นนะ” ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี ของจีน เพื่อซ่อมแซมความสัมพันธ์ทวิภาคีภายใต้ความตึงเครียดระดับรุนแรง

ไบเดนกล่าวว่าการฟื้นฟูการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการทหารโดยตรงระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศจะป้องกันโอกาสที่จะเกิดการคำนวณผิดพลาดระหว่างทั้งสองประเทศ 

“นั่นคือสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุ ความเข้าใจผิด ดังนั้น เราจึงกลับมาเปิดการสื่อสารโดยตรงที่ชัดเจน” ไบเดนกล่าว

สี จิ้นผิง พบโจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023
สี จิ้นผิง พบ โจไบเดน วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023 (ภาพโดย Kevin Lamarque/REUTERS)


ไบเดนบอกอีกว่า สหรัฐจะคงการดำเนินการทางการทูตระดับสูงกับจีนในทั้งสองทิศทางต่อไป เพื่อให้ช่องทางการสื่อสารเปิดกว้าง รวมถึงระหว่างประธานาธิบดีสี และตัวเขาด้วย ซึ่ง
ทั้งสองคนตกลงกันว่าแต่ละฝ่ายจะต้องรับสายโทรศัพท์ของอีกฝั่งที่ โทร.สายตรงโดยทันที

ไบเดนถูกผู้สื่อข่าวถามในการแถลงข่าวด้วยว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครนและฉนวนกาซาเมื่อเร็ว ๆ นี้จะเปลี่ยนแปลงคำมั่นสัญญาก่อนหน้านี้ของสหรัฐที่จะปกป้องไต้หวันจากการปฏิบัติการทางทหารของจีนหรือไม่ แล้วเขาตอบว่า “ผมขอย้ำสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่ผมได้เป็นประธานาธิบดี และสิ่งที่ประธานาธิบดีคนก่อน ๆ ทุกคนเคยพูดไว้ว่า เรารักษาข้อตกลงที่ว่าจะมีนโยบายจีนเดียว … นั่นจะไม่เปลี่ยนแปลง และนั่นเกี่ยวกับขอบเขตที่เราพูดคุยกัน” 

นอกจากนั้น หลังจบการแถลงข่าว ขณะที่ไบเดนเดินลงจากเวที  เขาถูกนักข่าวถามว่า คิดว่าสี จิ้นผิงเป็นเผด็จการหรือไม่ 

ไบเดนตอบว่า “ใช่” โดยอธิบายว่า “เขาเป็นเผด็จการในแง่ที่ว่าเขาเป็นคนบริหารประเทศที่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ด้วยรูปแบบการปกครองที่แตกต่างไปจากของเราอย่างสิ้นเชิง”

ความคิดเห็นดังกล่าวอาจจะสร้างความคับแค้นใจให้ฝั่งจีน หลังจากที่จีนเหมือนจะได้รับชัยชนะทางการทูตในการเจรจาทางการทูตเรื่องไต้หวัน

ด้าน สี จิ้นผิง บอกกับผู้บริหารธุรกิจในซานฟรานซิสโกหลังจากประชุมกับไบเดนว่า จีนต้องการเป็น “เพื่อน” กับสหรัฐ และกล่าวว่าจีนจะไม่ต่อสู้ไม่ว่ากับใครก็ตาม 

ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า จีน “ไม่มีวันเดิมพันขั้วตรงข้ามสหรัฐ” และ “ไม่มีความตั้งใจที่จะท้าทายหรือโค่นล้มสหรัฐ” 

“จีนไม่แสวงหาเขตอิทธิพล และจะไม่ต่อสู้กับสงครามเย็นหรือสงครามร้อนกับใครก็ตาม”