ปรับปรุงล่าสุด 21 ธันวาคม 2564
แพทย์หญิงชาวแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นคนแรกที่ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เผยว่า อาการจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนนั้น “ผิดปกติแต่ไม่รุนแรง” พร้อมแสดงความกังวลว่าสายพันธุ์นี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ดร.แองเจลีก โคเอตซี แพทย์ประสบการณ์ 30 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสมาคมการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้ (SAMA) กล่าวว่า เธอเชื่อว่าเธอได้พบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ หลังจากผู้ป่วยโควิดหลายรายในสถานพยาบาลของเธอที่กรุงพริทอเรีย แสดงอาการแปลก ๆ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โคเอตซีให้สัมภาษณ์เทเลกราฟว่า อาการของพวกเขาแตกต่าง และไม่รุนแรงมากจากที่เธอเคยรักษามาก่อน
เธอได้แจ้งคณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน หลังจากครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิกสี่คน มีผลตรวจโควิดเป็นบวกทั้งหมด พร้อมแสดงอาการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงอาการเมื่อยล้าอย่างรุนแรง
จนถึงตอนนี้ เธอมีผู้ป่วยกว่า 20 ราย ที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวก และแสดงอาการของสายพันธุ์โอไมครอน ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่ม เธอเผยว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ป่วยคนใดที่สูญเสียการรับกลิ่นหรือการรับรส
“มันทำให้เกิดโรคที่ไม่รุนแรง ซึ่งมีอาการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อและเมื่อยล้า อาจเป็นวันหรือสองวันที่รู้สึกไม่สบาย” โคเอตซีให้สัมภาษณ์ และกล่าวต่อไปว่า “จนถึงตอนนี้ เราตรวจพบว่าผู้ติดเชื้อไม่สูญเสียการรับรสหรือรับกลิ่น พวกเขาอาจมีอาการไอเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการใดที่เด่นชัด ผู้ติดเชื้อบางคนกำลังรักษาตัวที่บ้าน”
เธอกล่าวด้วยว่า ผู้ป่วยซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 6 ปี เป็นเคสที่น่าสนใจมาก
“เธอมีอุณหภูมิร่างกายและอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงมาก และฉันสงสัยว่าฉันควรให้เธอแอดมิตดีหรือไม่ แต่เมื่อฉันติดตามผลเธอในอีก 2 วันต่อมา เธอกลับมีอาการดีขึ้นมาก”
โคเอตซีเน้นย้ำด้วยว่า ผู้ป่วยของเธอทุกรายมีสุขภาพแข็งแรง แต่แสดงความกังวลถึงกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น เบาหวานและหัวใจ
“สิ่งที่เราต้องกังวลในตอนนี้คือผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน เพราะหากกลุ่มนี้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เราจะเห็นคนจำนวนมากที่มีอาการรุนแรงจากโรคนี้”
- โควิดสายพันธุ์ใหม่ WHO ตั้งชื่อ “โอไมครอน” เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวล
- หุ้นวัคซีนพุ่ง ไบออนเทค-โนวาแวกซ์ พร้อมปรับสูตรสู้โควิดสายพันธุ์ใหม่
- โควิดสายพันธุ์ใหม่ พบแล้วที่อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี อีก 2 ประเทศรอลุ้น
- อิสราเอลห้ามต่างชาติเข้าประเทศ 14 วัน สกัดโควิดสายพันธุ์ใหม่
- ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” สองรายแรก
-
จีนอาจติดโควิดวันละ 2-6 แสนราย หากใช้กลยุทธ์เหมือนสหรัฐ-ยุโรป
แพทย์อังกฤษพบอาการใหม่
วันที่ 20 ธันวาคม 2564 เวลส์ออนไลน์ รายงานว่า เนื่องด้วยจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วอังกฤษ ซึ่งเกรงว่าจะมีการกำหนดมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในเร็ว ๆ นี้เพื่อควบคุมเชื้อดังกล่าว
จำนวนผู้ป่วยโอไมครอนที่ได้รับการบันทึกทั่วประเทศแตะเกือบ 25,000 ราย เมื่อเวลา 18.00 น. ในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) เพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 รายจาก 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ด้วยจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อาจมีการติดเชื้อใหม่หลายแสนรายทุกวัน
ดร.อาเมียร์ ข่าน ให้สัมภาษณ์กับลอแรน แห่ง ITV พร้อมเปิดเผยอาการหลักที่ผู้ป่วยได้รับการติดเชื้อโอไมครอน ซึ่งเป็นตัวแปรใหม่ที่ปรากฏขึ้นขณะนอนหลับ กล่าวว่า แพทย์จากแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ตรวจพบเชื้อโอไมครอนนี้เป็นครั้งแรก ได้ค้นพบว่า ผู้ป่วยมีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืนขณะนอนหลับ
“อาการที่ออกมาจากแอฟริกาใต้โดยแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโอไมครอน แสดงให้เห็นถึงอาการใหม่ 5 ประการ ได้แก่ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อย เหนื่อยมาก ไอแห้ง และเหงื่อออกตอนกลางคืน แม้จะนอนหลับในห้องเย็น ซึ่งทำให้เปียกโชกจนคุณอาจต้องลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า สิ่งสำคัญคือเราต้องคอยติดตามอาการเหล่านี้”