ผู้นำอียูเห็นชอบการคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซียบางส่วนที่ขนส่งทางทะเล ซึ่งอาจทำให้ปูตินต้องเสียรายได้จากการส่งออกสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 บลูมเบิร์กรายงานว่า “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย อาจต้องพึ่งพาจีนและอินเดียมากขึ้น หลังจากบรรดาผู้นำในสหภาพยุโรป (อียู) ตกลงที่จะดำเนินการคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซียที่ขนส่งทางทะเล ซึ่งอาจทำให้ปูตินต้องเสียรายได้จากการส่งออกสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นายหน้าผู้ค้าน้ำมันมองว่า ด้วยเหตุนี้น้ำมันดิบอูราล (น้ำมันผสมหลักที่รัสเซียส่งออก) ซึ่งเคยได้รับความนิยมในยุโรป จึงต้องหาประเทศผู้ซื้อรายใหม่ที่มีจำนวนจำกัดในเอเชีย เนื่องจากน้ำมันชนิดนี้มีเกรดที่ไม่สามารถกลั่นในปริมาณมากได้อย่างง่ายดายสำหรับประเทศต่าง ๆ เช่น ศรีลังกาและอินโดนีเซียที่ไม่มีความสามารถในการแปรรูปและการผสมที่ซับซ้อน เพื่อรองรับน้ำมันประเภทที่มีกำมะถันสูง
นั่นอาจทำให้จีนและอินเดียซึ่งมีโรงกลั่นที่สามารถแปรรูปน้ำมันอูราลได้ ช่วยรับน้ำมันชนิดนี้จากรัสเซีย ประกอบกับจีนเริ่มคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ บรรดาโรงกลั่นน้ำมันทั้งของรัฐและเอกชนจึงอาจต้องการซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าจีนและอินเดียจะซื้อน้ำมันจากรัสเซียได้อย่างจำกัด เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศได้ซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากเป็นประวัติการณ์ จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาติยุโรป
- ดีลแล้วในที่สุด อียูแบนน้ำมันรัสเซีย 90% ในสิ้นปีนี้ ห้ามส่งทางเรือ อนุโลมให้มาทางท่อ
- ราคาน้ำมันปรับขึ้น หลัง EU ยอมลดการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย-จีนผ่อนคลาย
-
ศรีลังกาวิ่งวุ่นหาทาง ซื้อน้ำมันรัสเซีย – เรือบรรทุกเบนซิน ลอยทะเลรอเงินอยู่