บอลโลกที่ระทึก

ฟุตบอลโลก
Photo by Kirill KUDRYAVTSEV / AFP
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

ต่อเนื่องจากการพับแผนร่างกฎกระทรวงให้ต่างชาติซื้อที่ดิน รัฐบาลยังมาเจอกระแสต่อต้านการใช้เงินกองทุนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ มีกำหนดเปิดสนามวันที่ 21 พ.ย.นี้แล้ว

ความพิเศษของฟุตบอลโลกปีนี้ นอกจากขยับมาอยู่ช่วงปลายปีเป็นครั้งแรก ยังมีความระทึกว่าคนไทยจะได้ชมเกมการแข่งขันอย่างจุใจเหมือนครั้งก่อน หรือไม่ได้ชมฟุตบอลโลกทางจอทีวีเป็นครั้งแรก

ความขลุกขลักและกระชั้นชิดในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันเกิดขึ้นซ้ำและต่อเนื่องจากมหกรรมฟุตบอลยูโร 2020 ที่ขยับหนีโควิดมาจัดเมื่อปีก่อน โดยมีบริษัทเอกชนรายเดียว คือบริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ Aerosoft เป็นคู่สัญญาซื้อลิขสิทธิ์เพียงรายเดียว โดยใช้เงิน 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 300 ล้านบาทในตอนนั้น ถ่ายทอดสดการแข่งขันทางช่องเอ็นบีทีครบทั้ง 51 นัด

แม้แผนการตลาดที่คนไทยจำเพลงแอโร่ซอฟท์เชียร์ยูโร จะติดหูไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ไม่แน่ชัดว่าโดยรวมแล้วการลงทุนนี้มีความคุ้มค่ากับบริษัทมากน้อยอย่างไร

มาปีนี้ไม่มีภาคเอกชนรายใดเข้ายื่นประมูลการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 และรู้มานานแล้ว ว่าไม่มีใครอยาก “บาดเจ็บ” เหมือนกับผู้ซื้อลิขสิทธิ์ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าทศภาค (ปี 2002 และ 2006) อาร์เอสฯ (ปี 2010 และ 2014) หรือกลุ่ม 9 บริษัทยักษ์ใหญ่ เมื่อปี 2018 ซึ่งต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยมูลค่าสูงและสูงขึ้นทุกปี

กระทั่งตอนนี้ ทั้งฟุตบอลโลกที่ใกล้เข้ามา พร้อมกับเทศกาลเลือกตั้งเริ่มตั้งเค้า รัฐบาลจึงเริ่มขยับให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ไปจัดการหาทางนำฟุตบอลโลกมาฉายสร้างความสุขให้คนไทยอีกครั้ง หลังจากชาติอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียนซื้อลิขสิทธิ์ได้หมดแล้ว

อุปสรรคใหญ่ครั้งนี้ คือค่าลิขสิทธิ์ที่ กสทช.ได้รับไปพิจารณา อยู่ในกรอบวงเงินที่สูงมากถึง 1,600 ล้านบาท ซึ่ง กกท.ระบุว่า ส่วนหนึ่งมาจากเอเย่นต์ของฟีฟ่ารู้ว่าไทยมีกฎ กติกา เรื่องลิขสิทธิ์ ฟุตบอลโลกที่ต้องmust have (ให้เผยแพร่ได้เฉพาะทางฟรีทีวี) และ must carry (ให้บริการเป็นการทั่วไป ออนทุกแพลตฟอร์ม ไม่มีจอดำ) จึงตั้งราคาไว้สูง และต้องมีการต่อรอง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเศรษฐกิจติดขัดขณะนี้

การต่อรองที่เพิ่งมาทำในช่วงเวลาที่งวดเต็มทีแบบนี้ ยังไม่มีใครรับประกันได้ว่า จะออกมาเป็นผลดีหรือไม่ได้ผล

แต่เส้นทางเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่คนไทยไม่ได้ดูฟุตบอลโลกฟรีเป็นครั้งแรกน่าจะไม่สวยงามสำหรับรัฐบาล