นักวิชาการชี้ขึ้นค่าไฟกระทบภาคธุรกิจ จากนี้ 3 เดือนมีโอกาสเห็นสินค้าราคาแพง

ค่าไฟ

ธนวรรธน์ มองการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า จาก 3 บาทหน่วย เป็น 5 บาทต่อหน่วย กระทบธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ชี้ ไม่มีกลไกช่วยเหลือ เอกชนพยุงธุรกิจได้ 3 เดือน คาดมีโอกาสเห็นการปรับขึ้นราคาสินค้า

วันที่ 22 ธันวาคม 2565 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากอัตราการขึ้นค่าไฟที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้จะส่งผลให้เป็นภาระต้นทุนของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี จะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นประกอบกับเดิมมีต้นทุนเรื่องของค่าแรงอยู่แล้ว

ธนวรรธน์ พลวิชัย
ธนวรรธน์ พลวิชัย

โดยจะส่งผลต่อกลุ่มธุรกิจอยู่ใน 2 ประเด็น คือ เรื่องของการขาดสภาพคล่อง และต้นทุนของราคาสินค้า โดยเห็นว่าหากยังมีการปรับขึ้นค่าไฟ โดยที่ยังไม่มีกลไกที่จะเข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจ จะส่งผลให้ผู้ประกอบการจะต้องแบกภาระต้นทุนนี้ อีกทั้งจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

และมองว่าผู้ประกอบการจะสามารถพยุงภาคธุรกิจได้เพียง 1-3 เดือนไม่เกินจากนี้ จากนั้นหากยังไม่มีกลไกเข้ามาช่วยเหลือจริง ๆ จะมีโอกาสที่ผู้ประกอบการจะผลักภาระเข้าไปสู่ในเรื่องของปรับราคาสินค้า โดยมีโอกาสเป็นไปได้มาก

“คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่ได้พิจารณาปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ ม.ค.-เม.ย. 66 ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมไปอยู่เฉลี่ยที่ 5.69 บาทต่อหน่วย ซึ่งค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมหากนับเพิ่มจากงวดต้นปี’64 มาถึงงวดใหม่ต้นปี’65 หากเก็บตามที่ กกพ.กำหนดก็จะขึ้นถึง 90% จากราว 3 บาท/หน่วยเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย”