อาร์เอส ทุ่มงบฯ 880 ล้านบาท ซื้อธุรกิจขายตรงยูนิลีเวอร์ หวังหนุนโมเดล Entertainmerce ประกาศ 1-3 ปี ดันยูไลฟ์ ขึ้นแท่นท็อป 5 ตลาดขายตรง
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าซื้อหรือลงทุนในธุรกิจหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโต (M&A) เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งจะส่งผลให้ Ecosystem ของบริษัทขยายใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
โดยการตัดสินใจเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของยูไลฟ์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยให้คนไทยได้เป็นเจ้าของธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ นอกจากจะทำให้โมเดลธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส กรุ๊ป แข็งแกร่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้นในช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ
รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทแล้ว ยังตอกย้ำให้เห็นถึงพันธกิจของ อาร์เอส กรุ๊ป ที่ต้องการเติมเต็มชีวิตผู้คนด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมทั้งสร้างแพสชั่นเพื่อผลักดันให้คนไทยมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงอีกด้วย
นอกจากนี้ “ธุรกิจขายตรง” เป็นธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้ที่คาดการณ์การเติบโตเฉลี่ยในระดับอย่างน้อย 6-7% ต่อปี จึงทำให้ ยูไลฟ์ มีโอกาสเติบโตอีกมาก ซึ่งหากมารวมกับโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ของ อาร์เอส กรุ๊ป และธุรกิจในเครือ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเป็นจุดแข็งที่แตกต่างให้แก่การทำการตลาดและการขายสินค้าของยูไลฟ์
จึงนำไปสู่โอกาสทั้งในด้านการเพิ่มยอดขาย การสร้าง Business partner ปัจจุบันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และดึงดูด Business partner รายใหม่ ๆ เข้ามา รวมถึงการมีไลน์สินค้าที่หลากหลายจะสนับสนุนให้ ยูไลฟ์ ยุคใหม่ มีความพร้อมในการแข่งขันและช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทและพาร์ตเนอร์ให้เติบโตอย่างแข็งแรง
ทั้งนี้ ยูไลฟ์ สามารถนำ Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ของ อาร์เอส กรุ๊ป มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจในทุกมิติ ช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาด
ซึ่งจะส่งผลให้ ยูไลฟ์ สามารถนำข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมทางการตลาดได้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์และอาวุธสำคัญที่ช่วยให้ ยูไลฟ์ มีความโดดเด่นและแตกต่างจากผู้เล่นทุกรายในอุตสาหกรรมเดียวกัน”
การลงทุนจำนวนกว่า 880 ล้านบาท เป็นการซื้อธุรกิจขายตรง “ยูไลฟ์” โดยประกอบด้วยทรัพย์สินต่าง ๆ ได้แก่
3 แบรนด์ระดับพรีเมี่ยม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ “Beyonde”, ผลิตภัณฑ์สุขภาพความงาม “Aviance” และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายในช่องปาก “I-Fresh” ซึ่งมีสินค้าที่หลากหลายรวมถึง 43 ผลิตภัณฑ์ 76 SKU
- ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และร้านค้า
- ระบบบริหารจัดการ และ Software ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ
- ทีมผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์สูงในธุรกิจขายตรง พร้อมทั้งพนักงานทั้งหมด
ทั้งนี้ ยูไลฟ์ เป็นหน่วยธุรกิจขายตรงในเครือยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สุขภาพความงามระดับพรีเมี่ยมในธุรกิจขายตรง โดยมีสินค้าหลากหลาย SKU ที่ได้รับความนิยมสูงและมียอดขายในระดับต้นของอุตสาหกรรม
อาทิ Beyonde MAQUI PLUS+ เครื่องดื่มซูเปอร์แอนตี้ออกซิแดนต์จากผลมากิเบอร์รี่และซูเปอร์ฟรุต รวม 12 ชนิด และ Aviance Collagen Matrix ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน 100% จากฝรั่งเศสและญี่ปุ่น
“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร และจำนวนสมาชิกภายใต้เครือข่ายธุรกิจกว่า 150,000 ราย ของ ยูไลฟ์ ประกอบกับการ Synergy กับ Ecosystem ของ อาร์เอส กรุ๊ป คาดว่าจะเสริมให้รายได้ของ ยูไลฟ์ หลังสถานการณ์โควิด-19 เติบโตอยู่ในระดับทะลุ 1,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะผลักดันและสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อให้ ยูไลฟ์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทขายตรงอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศภายในปี 2567” นายสุรชัยกล่าวปิดท้าย