
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “ภูมิธรรม เวชยชัย” มั่นใจโหวต “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ ผ่านฉลุย แล้วค่อยแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี อาสาเป็น “หินก้อนแรก” สลายความขัดแย้ง
วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า เท่าที่ดูแนวโน้มที่ได้คุยกัน เห็นว่าพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ในสภา ยกเว้นแค่ 2-3 พรรคที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน
ตอนนี้มั่นใจว่าเสียงของเราสามารถเป็นรัฐบาลที่มีความเข้มแข็งได้ หากประธานรัฐสภากำหนดวันโหวตมา พรรคเพื่อไทยก็พร้อม และเชื่อว่าภายใต้กติกาที่มีข้อจำกัดจะสามารถทำให้โหวตผ่านได้ภายในครั้งเดียว
ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐประกาศให้ 40 เสียงสนับสนุนจะมีการนำเข้ามาพูดคุยด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า การจับมือกันยังไม่ใช่สาระสำคัญ แต่มีความเข้าใจกันที่จะสามารถใช้แนวทางในการแก้ไขวิกฤตทั้งสามเรื่องได้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ได้แสดงจุดยืนแล้วว่า ยินดีจะเข้าร่วม โดยไม่ได้คำนึงถึงตำแหน่งอะไร
นี่เป็นคุณสมบัติขั้นต้นที่ได้พูดไปแล้วว่าเรายินดีที่จะร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่เห็นชอบในการเสนอให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่พรรคการเมือง ซึ่งถูกพรรคเพื่อไทยเชิญมาร่วมรัฐบาล กดดันให้แบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีก่อนถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่คุยกันไม่มีปัญหาอย่างที่กล่าวมา และไม่ทราบว่าไปได้ยินมาจากไหน ยืนยันว่าเราสร้างความมั่นใจและชัดเจน ซึ่งต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ทั้งหมดก็พร้อมที่จะเข้าร่วม ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลเรื่องนี้
“เมื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จึงจะมีการมาคุยกันเรื่องตำแหน่ง ซึ่งหากวันประชุมร่วมเป็นวันที่ 18 สิงหาคม หรือวันที่ 22 สิงหาคมจริงและเลือกได้เลย ก็สามารถตกลงและจัดตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววัน” นายภูมิธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ สส.พรรคเพื่อไทย กังวลจับมือพรรค 2 ลุง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ได้ยิน ทุกคนให้กำลังใจทีมเจรจาให้สามารถทำงานได้ วันนี้ต้องยอมรับว่าเราคิดหลายเรื่องเหมือนกัน เพราะเราอยู่ภายใต้ข้อจำกัด ไม่สามารถทำตามความต้องการที่เราปรารถนาได้ทั้งหมด เมื่อตัวเลขออกมาเช่นนี้ และปัญหาที่แสดงออกมาชัดเจนก็สะท้อนว่าเรารอไม่ได้ รวมถึงมีปัญหาเข้ามาใหม่ ๆ จึงจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว
“การตัดสินใจในเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่เราคิดว่าเราสลายความขัดแย้ง หากไม่มีจุดเริ่มต้นก็ยากที่จะทำได้ ความยากลำบากของการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งมีความเจ็บปวด พรรคเพื่อไทยจึงอาสาเป็นหินก้อนแรกในการทำให้เกิดเส้นทาง ที่ทำให้ความขัดแย้งลดลง ในทางการเมืองเราเชื่อว่าการทำให้วิธีคิดใกล้เคียงกัน ทำงานและแก้ปัญหาร่วมกันจะเป็นทางออก สามารถร่วมมือกันได้ และทำให้สามารถฝ่าวิกฤตได้ เราต้องคิดใหญ่ทำใหญ่ในเส้นทางที่คับแคบ แต่ทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชน หากเราตัดสินใจผิดพลาด เราก็จะรับผิดชอบ”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล มีความเป็นห่วงในการที่พรรคเพื่อไทยถูกบีบและกดดันจากพรรคที่จะมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า ใครจะรู้ดีเท่าพรรคเพื่อไทย วันนี้เราก็สบาย ๆ เพราะเราเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้ใช้วิธีการเดิมแบบที่พรรคก้าวไกลได้ทำ เรารู้ว่าวิธีการนั้นเป็นวิธีการที่ยากลำบากและเป็นทางตัน เราจึงหาทางใหม่
ส่วนกรณีที่ สว.เรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย เข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ก่อนลงมติการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ว่าไปตามกฎเกณฑ์ของรัฐสภา เคยปฏิบัติมาเช่นไรก็เป็นเช่นนั้น เรายินดีทำ
ส่วนเสียง สว.เท่าที่ได้พูดคุยก็เป็นไปในทิศทางที่ดี เราได้เสียง สว.มากกว่าที่เคยได้กัน ส่วนจะเกิน 100 หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เป็นดุลพินิจและการพิจารณาของ สว.แต่ละท่านว่าจะตัดสินใจทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการมองว่านายเศรษฐาอาจจะโหวตไม่ผ่าน ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนตัวเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะมีการเปลี่ยนแผนหรือไม่อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราไม่เชื่อแบบนั้น เราเชื่อว่าโหวตครั้งเดียวผ่าน อย่ากังวลใจเรื่องนี้เลย เราคิดว่าเราทำอย่างเต็มที่ แล้ว เราทราบแล้วว่าที่ผ่านมาพรรคการเมืองอันดับหนึ่งประสบปัญหาอะไรบ้าง
เราจึงใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการแก้ไขปัญหานั้น และทำความเข้าใจและชี้แจงกับทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมืองที่จะร่วมกับเราและ สว. และเท่าที่ได้คุยก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขณะนี้ต้องระมัดระวังเรื่องข่าวลือและการคาดการณ์ อย่าคิดจะไปเอาใจใส่เรื่องนี้มากเกินไป เพราะอาจจะมีข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดความสับสนได้