ปลดล็อก โควิด

สนามบิน ท่องเที่ยว เดินทาง
Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

แม้ยังมีคนไทยติดโควิดหลักหลายหมื่น และเสียชีวิตเฉียดร้อยต่อวัน จำนวนผู้ป่วยสะสมเกิน 3.7 ล้านคน เสียชีวิตเกิน 2.5 หมื่นคนไปแล้ว แถมในช่วงปลายเดือน มี.ค.ต่อเนื่องถึง เม.ย. ไทยกลายเป็นประเทศ “ท็อป 10” ผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก และเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยับเยินมานานหลายปี บวกกับหนี้สาธารณะทรงตัวระดับสูง

ทำให้รัฐบาลโดย “ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19” (ศบค.) ที่ออกมายอมรับว่ากระเป๋าฉีกไปเรียบร้อย จำต้องปล่อยผีโควิดผลักดันให้เป็นโรคประจำถิ่น แม้โดยเงื่อนไขยังห่างไกลอยู่ประมาณหนึ่ง เพราะจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต้องไม่เกิน 10,000 คนต่อวัน อัตราเสียชีวิตน้อยกว่า 0.1% การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลน้อยกว่า 10% เป็นต้น

รวมถึงปรับรูปแบบมาตรการ Test & Go ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยง่ายขึ้น ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เดือน มี.ค. และมีแนวโน้มว่าจะยกเลิกเงื่อนไขอื่น ๆ โดยเฉพาะ “ไทยแลนด์พาส” ที่ต้องใช้เอกสารต่าง ๆ มากมาย เรียกว่าอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบเต็มที่ แทบจะเป็นเพียงการตรวจ ATK แล้วไม่ขึ้น 2 ขีดเป็นอันจบ สามารถมาท่องเที่ยวในไทยได้ทันที

แน่นอนว่าการผ่อนคลายควบคุมโควิดของไทย ทำให้ภาคธุรกิจสนับสนุนเต็มที่ เห็นได้จากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อยู่ที่ระดับ 89.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 86.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว

ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 99.6 เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนอยู่ที่ระดับ 97.1 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายลงจากการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ ทำให้ประชาชนสามารถออกมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น

ส.อ.ท.ยังเสนอแนะอีกว่าหากยกเลิกมาตรการ Test & Go และประกาศเป็นโรคประจำถิ่นเร็วขึ้น มาตรการต่าง ๆ จะผ่อนคลายและยกเลิกได้เร็วขึ้นเช่นกัน บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย การเปิดประเทศ การท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาเร็วขึ้น

ยิ่งหากดูความเคลื่อนไหวและแนวคิดของคนในวงการธุรกิจภาคส่วนต่าง ๆ แล้ว ส่วนใหญ่ยอมรับว่าแม้ยังกลัวโควิด แต่กลัว “อดตาย” มากกว่า เพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจจำนวนมากล้มหายตายจากไป ที่ยังประคองอยู่ได้ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย จึงอยากให้ปลดล็อกโควิด เปิดประเทศแบบเต็มที่

แต่กระนั้นทุกภาคส่วนเห็นตรงกันว่าต่อให้ปลดล็อกทั้งหมด คนไทยยังต้องตั้งการ์ดสูง ขณะที่ภาครัฐควรสนับสนุนทั้งเรื่องวัคซีน สถานพยาบาล และยาอย่างเพียงพอด้วย