REIC เผยลูกค้าต่างชาติโอนคอนโดฯเพิ่ม 24% “พม่า-อินเดีย” กอดคอกันแรง

ที่ดิน คอนโด
Photo : Pixabay

REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. เผยสถิติ 6 เดือนแรกปี 2566 หน่วยโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ของลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น 14.7% เทียบกับปี 2565 อยู่ที่ 10.8% มูลค่าโอนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 24.5% เทียบกับปี 2565 อยู่ที่ 20.5% ถือเป็นการส่งสัญญาณกำลังซื้อต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้าตลาดเมืองไทย

วันที่ 18 กันยายน 2566 ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2566) ลูกค้าต่างชาติมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในชลบุรีเป็นอันดับ 1 สัดส่วนร้อยละ 43.4

กรุงเทพฯ เป็นอันดับ 2 สัดส่วนร้อยละ 37.7 เมื่อรวมทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์

ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา หรือระหว่างปี 2561-2565 ที่กรุงเทพมหานครมียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 48.8 และชลบุรีเป็นอันดับที่ 2 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 30.8

โดยในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1 และ 85.4 ของทั่วประเทศ ขณะที่ภูเก็ตมีสัดส่วนเป็นอันดับที่ 3 ที่ร้อยละ 6.3

“ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วนร้อยละ 47.0 และ 48.3 ตามลำดับ อันดับ 2 รัสเซีย สัดส่วนร้อยละ 9.6 และ 7.3 ตามลำดับ”

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ยังพบประเด็นที่น่าสนใจว่า ในไตรมาส 2/66 ลูกค้าสัญชาติพม่ามีการโอนห้องชุดราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 7.0 ล้านบาท ในขณะที่อินเดียมีการโอนกห้องชุดขนาดเฉลี่ยใหญ่สุด อยู่ที่ 89.8 ตารางเมตร

ADVERTISMENT

สำหรับภาพรวมการโอนของคนต่างชาติ ไตรมาส 2/66 สถิติคนต่างชาติโอนห้องชุดทั่วประเทศมีจำนวน 3,563 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.4 มูลค่าการโอน 18,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในมิติของพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 166,303 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY)

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับการโอนกรรมสิทธิ์ทุกประเภท พบว่า หน่วยโอนห้องชุดของคนต่างชาติ มีสัดส่วนร้อยละ 13.6 ของการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ เพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 9.3

ขณะที่มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ มีสัดส่วนร้อยละ 24.6 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 18.7

ส่วนพื้นที่ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ มีสัดส่วนร้อยละ 18.3 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 12.7

ซึ่งสัดส่วนในไตรมาส 2/66 สูงกว่าช่วงก่อนยุคโควิด หรือระหว่างปี 2561-2562 ที่มีสัดส่วนหน่วยและมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10.2 และ 16.0 แสดงถึงชาวต่างชาติมีการซื้อห้องชุดที่มีราคาสูงขึ้นกว่าช่วงปีก่อนหน้า

ด้านสัดส่วนการโอนห้องชุดใหม่และห้องชุดมือสอง พบว่า มีหน่วยการโอนห้องชุดให้คนต่างชาติเป็นห้องชุดใหม่ต่อห้องชุดมือสอง 61.9 : 38.1 ในขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติเป็นห้องชุดใหม่ต่อห้องชุดมือสองเป็นอัตราส่วน 69.3 : 30.7

โดยห้องชุดมือสองมีสัดส่วนจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

สำหรับระดับราคายอดนิยมของคนต่างชาติไม่เกิน 3.00 ล้านบาท มีการโอนจำนวน 1,586 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44.5 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับราคานิยมโอนมากที่สุดตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน

รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวน 880 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.7, ระดับราคา 5.01-7.50 ล้านบาท มีจำนวน 567 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.9

ระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 321 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.0 และระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 209 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.9 ตามลำดับ

ด้านขนาดห้องชุดอยู่ที่ 31-60 ตารางเมตร (ประเภท 1-2 ห้องนอน) มีจำนวน 1,909 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.6 รองลงมา ไม่เกิน 30 ตารางเมตร (สตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน) จำนวน 1,037 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 29.1

ถัดมาคือ ขนาดพื้นที่ 61-100 ตารางเมตร (2-3 ห้องนอนขึ้นไป) จำนวน 379 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 10.6 และพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร (3 ห้องนอนขึ้นไป) มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 238 หน่วย ร้อยละ 6.7 ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 2561 พบว่าห้องชุดขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร และขนาด 31-60 ตารางเมตร เป็นห้องชุดที่คนต่างชาตินิยมมากที่สุด มีสัดส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์รวมกันสูงกว่าร้อยละ 80 ในแต่ละไตรมาส

ดร.วิชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตามภาพรวมในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีหน่วยการโอนของคนต่างชาติรวม 7,338 หน่วย มูลค่า 35,211 ล้านบาท

ในจำนวนดังกล่าวพบว่ามีการโอนให้ชาวจีน มูลค่าสูงสุด 16,992 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 48.3 ของมูลค่าทั้งหมด

ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ รัสเซีย จำนวน 2,556 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 7.3, สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,289 ล้านบาท ร้อยละ 3.7, อังกฤษ 1,287 ล้านบาท ร้อยละ 3.7 และพม่า 1,274 ล้านบาท ร้อยละ 3.6

ด้านพื้นที่จังหวัด ชลบุรีมาเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 43.4 ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 ที่สัดส่วนร้อยละ 37.7 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ทั้ง 2 จังหวัดรวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1

ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา หรือระหว่างปี 2561-2565 ที่กรุงเทพมหานครมียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 48.8 และ ชลบุรีเป็นอันดับที่ 2 ที่มีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 30.8

โดยในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2566 ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 81.1 และ 85.4 ของทั่วประเทศ

โดยจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ ชลบุรี มีจำนวน 3,183 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.4 และกรุงเทพฯ จำนวน 2,765 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.7 ตามลำดับ

ด้านมูลค่าโอนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีมูลค่า 20,233 ล้านบาท ร้อยละ 57.5 และชลบุรี 9,840 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.9 ตามลำดับ

ทั้งนี้ ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนไปแล้วทั้งหมด 3,448 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 47.0 ของหน่วยทั้งหมด มูลค่าสูงสุด จำนวน 16,992 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 48.3 ของมูลค่าทั้งหมด

และ 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 702 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.6 มูลค่า 2,556 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.3, สหรัฐอเมริกา จำนวน 293 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.0 มูลค่า 1,289 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.7

ฝรั่งเศส จำนวน 269 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.7 มูลค่า 1,127 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 3.2 อับดับ 5 คือ สหราชอาณาจักร จำนวน 260 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.5 มูลค่า 1,287 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.7

ทั้งนี้ สัญชาติพม่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 7.0 ล้านบาท ในขณะที่สัญชาติอินเดียมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดขนาดเฉลี่ยใหญ่สุดอยู่ที่ 89.8 ตารางเมตร

“สถิติของครึ่งปีแรก สะท้อนภาพการฟื้นตัวของกำลังซื้อต่างชาติ ทั้งนี้ มีข้อสังเกตต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า การซื้อขายห้องชุดที่ผ่านมาเป็นการขายได้จริง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากภาวะการโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ดร.วิชัยกล่าวตอนท้าย