มรสุมมาหลายทิศ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ส่งสัญญาณงัดมาตรการลดพนักงานออกมาใช้ เพื่อลดต้นทุน หลัง รายได้ META ลดลงครั้งแรกในไตรมาสสองของปีนี้
วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า บริษัท เมตา-META ปรับเปลี่ยนแผนงานการใช้จ่ายแล้ว หลังผิดหวังที่ผลประกอบการไตรมาสสองของปีนี้ออกมาลดลงเป็นครั้งแรก โดยแจ้งยุติการให้ทุนกับสื่อในอเมริกา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เมตาระบุว่า จะไม่มีการจ่ายเงินให้องค์กรสื่อข่าวในสหรัฐ เพื่อให้ข่าวปรากฏในช่อง News Tab หลังจากเผชิญเศรษฐกิจขาลงและพฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไป
“คนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าเฟซบุ๊กมาเพื่ออ่านข่าว ดังนั้นจึงไม่สมเหตุสมผลที่จะลงทุนในส่วนที่ไม่ได้จัดวางตามความพอใจของผู้ใช้” เมตาระบุ
เมตาสมัยที่ยังชื่อบริษัท เฟซบุ๊ก เคยทำสัญญาหุ้นส่วนกับบริษัทและองค์กรข่าวรายใหญ่ ๆ ในอเมริกา เมื่อปี 2019 (พ.ศ. 2562) เพื่อเปิดเซ็กชั่น “News Tab” ที่แสดงพาดหัวข่าวของสื่อในมือถือ บริษัทที่ทำสัญญาด้วยโดยไม่ได้เปิดเผยตัวเงิน ได้แก่ วอลล์สตรีตเจอร์นัล, วอชิงตันโพสต์, บัซซ์ฟีด นิวส์, บิสิเนส อินไซเดอร์, เอ็นบีซี, ยูเอสเอทูเดย์ และลอสแองเจลิสไทมส์
สำหรับสำนักข่าว เอพี ที่ไม่ได้ทำสัญญาด้วย แต่เคยได้รับการชักชวน เผยว่า ตอนนั้นมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก กล่าวว่า เห็นโอกาสที่จะสร้างหุ้นส่วนความสัมพันธ์ทางการเงินที่มั่นคงและเป็นไปในระยะยาวกับกลุ่มพับลิชเชอร์
แต่ล่าสุดจากแถลงการณ์ของเมตาระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยนไปมากจากช่วงที่ลงนามเมื่อสามปีก่อน ในการทดสอบเชื่อมต่อข่าวของเฟซบุ๊กนิวส์ในอเมริกา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาที่ทำกับสื่อประเทศอื่น ๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และออสเตรเลีย
ด้านนิวยอร์กโพสต์รายงานว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก และซีอีโอบริษัท เมตา-Meta แจ้งต่อนักวิเคราะห์ว่า จะตัดลดพนักงานลงทั้งส่วนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
“นี่เป็นช่วงเวลาที่อุปสงค์ตึงเครียดขึ้น ดังนั้นผมคาดหวังว่าเราจะจัดสรรทรัพยากรให้น้อยลง” ซักเคอร์เบิร์กกล่าวและว่า เนื่องจากธุรกิจโฆษณาถูกกระทบ ดังนั้นทีมงานต่าง ๆ จะต้องลดพนักงานลง เพื่อให้นำพลังงานไปจ่ายส่วนอื่น ๆ ในบริษัทได้
ทั้งนี้ หลังจากบริษัทแจ้งผลประกอบการต่อตลาดแล้ว ทำให้ราคาหุ้นในตลาดวอลล์สตรีตฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 28 ก.ค. ร่วงลงไปถึง 8.86%
นอกจากเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมแล้ว เมตายังเป็นเจ้าของวอตส์แอปด้วย บริษัททำรายได้รวมในไตรมาสสอง 28,820 บ้านดอลลาร์ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันนี้ของปีก่อน และหลุดเป้าการคาดหมายของตลาด ว่าน่าจะทำได้ 28,940 ล้านดอลลาร์
เมื่อนับรายได้สุทธิ พบว่าร่วงไปถึง 36% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรในไตรมาสสองอยู่ที่ 6,700 ล้านดอลลาร์
บริษัทระบุว่า ผิดหวังกับสภาพแวดล้อมของอุปสงค์ด้านโฆษณาที่ย่ำแย่ลง ซึ่งเชื่อว่ามาจากแรงกดดันของเศรษฐกิจมหภาค ไม่มีความแน่นอน
“ดูเหมือนเราจะเข้าสู่ช่วงขาลงของเศรษฐกิจ จึงส่งผลหนักต่อธุรกิจโฆษณาดิจิทัล ดังนั้นเรากำลังชะลอการลงทุน และผลักค่าใช้จ่ายที่เดิมกำหนดไว้ในปีสองปีข้างหน้า ออกไปในเวลาที่นานกว่านั้น” ซักเคอร์เบิร์กกล่าว
การเติบโตของเฟซบุ๊กยังเจออุปสรรคจากคู่แข่งอย่างติ๊กต๊อก ของบริษัท ไบท์แดนซ์ ที่ดึงดูดผู้ใช้หลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
เมตาพยายามปรับแผนด้วยการให้อินสตาแกรมเดินทับรอยความสำเร็จของติ๊กต๊อก โดยเฉพาะการโปรโมตคอนเทนต์จากผู้ใช้ที่อยู่นอกวงเพื่อน ๆ ในเครือข่าย
นอกจากนี้ อินสตาแกรมยังมุ่งแชร์วิดีโอที่มีความยาวน้อยกว่า 15 นาทีออกมาในรูปแบบรีลส์-Reels แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของเซเลบริตี้บางคน เช่น คิม คาร์เดเชียน และไคลี เจนเนอร์
ซักเคอร์เบิร์กแสดงอาการหงุดหงิดกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่มากระทบการเติบโตของบริษัท เผยให้เห็นในการประชุมแบบถาม-ตอบกับพนักงานเมตา เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ตอนนั้นมีพนักงานที่สาขาเมืองชิคาโก ถามก่อนเข้าช่วงบันทึกการประชุมว่า บริษัทจะมีช่วงเวลา “Meta Days” หรือช่วงเวลาพักพิเศษระหว่างการระบาดของโควิดที่เชื่อว่าจะต่อเนื่องไปถึงปี 2023 หรือไม่
จากรายงานของเดอะเวิร์จ ซักเคอร์เบิร์กกล่าวตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “อืม เอานะ จับน้ำเสียงผมในช่วงถาม-ตอบที่เหลือก็แล้วกัน คุณจะนึกภาพออกว่าปฏิกิริยาของผมต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไร”
ข่าวร้ายสำหรับเมตายังไม่หมด เมื่อวันพุธที่ 27 ก.ค. คณะกรมมการการค้าสหพันธรัฐยังตัดสินห้ามบริษัทเข้าถือสิทธิบริษัท วิธอิน อันลิมิเต็ด กิจการด้านเวอร์ชวลเรียลิตี้ รวมถึงแอปพลิเคชั่นของบริษัทด้านฟิตเนส ที่ชื่อ ซูเปอร์เนเชอรัลด้วย เพราะถือว่าจะกระทบต่อการแข่งขัน และละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาด
….