แพทองธาร ประกาศสางหนี้คนอีสาน ฟื้นแผนสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

เพื่อไทย ปราศรัยใหญ่ จ.เลย แพทองธาร ฟื้นแผนสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ฟื้นท่องเที่ยว สร้าง Soft power ย้ำ เลือกตั้งเพื่ออนาคตลูกหลาน คนอีสานไม่ต้องมีหนี้สินอีก

วันที่ 27 มกราคม 2565 ที่เวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย ณ สนามกีฬากลาง จ.เลย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคไทยรักไทย ก่อตั้งในปี 2544 ลงเลือกตั้ง ชนะอย่างเด็ดขาด รวมถึงพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งมาโดยตลอด เพราะพรรคเพื่อไทยได้รับความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชน ที่เลือก ส.ส.ของพรรคที่มีความเข้าใจปัญหา

 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

ในการเลือกตั้งปี 2562 มี 3 เขต พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 2 คนคือ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล และนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ถือเป็นเพชรเม็ดงามของ จ.เลย ที่พี่น้องประชาชนส่งมาให้พรรคเพื่อไทยทำงานร่วมกัน ขอพี่น้องชาว จ.เลย ไว้วางใจเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เลยของพรรคเพื่อไทย 4 เขต ที่เตรียมประกาศรายชื่อผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เลย อีก 1 เขตที่เหลือเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจังหวัดเลยถูกวางให้เป็นเมืองหลวงของการท่องเที่ยวภาคอีสานตอนบน โดยในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ก่อตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) : อพท. หวังผลักดันเป้าหมายดังกล่าว พร้อมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันคิดค้นแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว

หนึ่งในนั้นคือการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง แต่แผนถูกทำลายสิ้นเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลจะมีหนทางในการส้รางรายได้ให้กับประชาชนหลายด้าน แม้แต่สินค้าเชิงวัฒนธรรมอย่างผีตาโขน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้มากขึ้น

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอประกาศปักธงนำพาประชาธิปไตยมาสู่พี่น้องประชาชน จะสร้างรัฐธรรมนูญจากประชาชน เป็นรัฐธรรมนูญที่มีความสมดุล เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จะทวงคืนสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และลูกหลานของพวกเรา จะไม่ถูกจับกุมขุมขังพี่น้องประชาชนลูกหลานเยาวชน เพียงแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย เราจะปกป้องเขา กระบวนการยุติธรรมที่อยุติธรรม เราจะไปปฏิรูปกระบวนการเหล่านั้นให้เป็นกระบวนการยุติธรรมสำหรับพี่น้องประชาชน

“หลายคนบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่สนใจลูกหลานเยาวชน ผมในฐานะหัวหน้าพรรค เราขอประกาศชัดเจนว่า จะรักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชน กฎหมายใดที่ใช้อำนาจอย่างล้นเกิน จับกุมคุมขังอย่างไม่มีเหตุผล เราจะเข้าไปต่อสู้ ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง แก้ไขในสิ่งนั้น กระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เราจะไปปรับปรุงกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ต้องห่วง เราจะทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเพื่อมาดูแลพี่น้องประชาชน เรามีความมุ่งมั่นต้องเป็นรัฐบาลเพื่อไทย เพื่อพี่น้องประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว

นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลวันนี้ไปต่อไม่ได้แล้วเพราะ 8 ปีที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้แล้วเหลือเวลาแค่ 2 เดือนก่อนหมดอายุสภา จะไปแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะหัวหน้ารัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี วันๆ มัวแต่เล่นไล่จับ พลเอกประยุทธ์ต้องระวังอย่าให้พลเอกประวิตรรู้ว่าจะไปลงพื้นที่ไหน พลเอกประวิตรก็คอยแต่จะสืบว่าพลเอกประยุทธ์ จะไปที่ไหนจะได้ไปดักลงพื้นที่ก่อน นายกรัฐมนตรีกับรองนายกรัฐมนตรีวิ่งไล่จับกันไปมาแล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติ

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ตั้งใจอยากจะพัฒนานโยบายที่พรรคไทยรักไทยเคยได้เริ่มไว้ในจังหวัดเลย อย่างโครงการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเลยให้กลับมาเติบโต พี่น้องชาวเลยจะได้ไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปขายลอตเตอรี่ไกลบ้านอีก มีรายได้และอาชีพที่มั่นคง

 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

ในด้านภาคการเกษตร เพื่อไทยจะทำให้สินค้าเกษตรราคาขึ้นยกแพง และขอเป็นตัวแทนนำสินค้าของพี่น้องชาวเกษตรกรไปขายให้กับต่างชาติ เพิ่มกำไร เพิ่มรายได้ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ขายได้ง่ายขึ้น และปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งที่เป็นอุปสรรคในการเกษตรจะต้องถูกแก้ไขอย่างจริงจัง

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนปัญหายาเสพติดที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ทำให้ลูกหลานมองไม่เห็นอนาคต สถาบันครอบครัวแตกแยก พรรคเพื่อไทยจึงให้ความสำคัญนโยบายแก้ไขยาเสพติด ไม่ใช้แค่ปราบปราม แต่ยังต้องบำบัดผู้ที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติดอีกด้วย เพราะพื้นฐานอนาคตของลูกหลานเป็นสิ่งสำคัญ

 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

“ในฐานะคนเป็นแม่อยากเห็นลูกหลานเติบโตบนอนาคตที่สดใส หนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยจึงมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของประชาชน ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ ที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีรายได้หาเลี้ยงครอบครัวและตัวเอง โดยมีรายได้เริ่มต้น 2แสนบาทต่อปี และตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องสร้างงาน สร้างอาชีพให้ได้มากถึง 20 ล้านตำแหน่ง เราอาจจะได้เห็น ลิซ่า แบล็กพิงค์ ศิลปินชื่อดังระดับโลก คนต่อไปมาจากจังหวัดเลย ที่สำคัญถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลในปี 2570 ค่าแรงขั้นต่ำจะต้องขึ้นเป็นวันละ 600 บาทแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า เราเลือกตั้งเพื่ออนาคตของลูกหลาน มีทางออกเห็นแสงสว่าง ไม่ต้องมีหนี้มีสินอีก เพราะเพื่อไทยพร้อมที่จะ คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อจังหวัดเลย ชาวอีสาน เพื่อคนไทยทุกคน ขอให้พี่น้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนสไลด์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า